วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2558

มู่หลาน จอมทัพหญิงกู้แผ่นดิน เจาะสาระ 9 สำนวนจีน แง่คิดจากหนัง



มู่หลาน จอมทัพหญิงกู้แผ่นดิน ซีรีส์จีน เวอร์ชั่น 2013 

花木兰传奇 The Legend of Hua Mulan
การได้ดูหนังดีสักเรื่อง เหมือนได้อ่านหนังสือดีหลายเล่ม 
เขียนโดย สุวรรณา สนเที่ยง 张碧云
。。。。。。。。。。。。。

"ดูละครแล้วฉลาดไม่ต้องพึ่งน้ำมันตับปลา" 

เป็นคำคมของบล็อกเกอร์ท่านหนึ่ง ใช้นามปากกาว่า "ลิงเขียว" ที่อ่านเรื่องที่เหล่าซือเขียนแล้วได้คิดคำคมให้กับเรื่องนี้ส่งมาทางคอมเมนท์
เหล่าซือชอบวลีเด็ดนี้มาก จึงขออนุญาตเอามาจั่วหัวเลย

ซีรีย์จีนเรื่อง มู่หลาน เวอร์ชั่นนี้  มีสาระ แง่คิด คำคมและสำนวนจีนทุกตอน  ดูแล้วสนุกน่าติดตาม
................................
ผู้เขียนชอบบทของแม่ทัพเซี่ยเหมือนกัน ยกให้เป็นพระรองเลย
ขอให้ทุกท่านสนุกและได้แง่คิดกับการดูหนังค่ะ
........................................

เจาะลึกข้อคิด สาระ และ เกร็ดภาษาจีนจากหนัง

 "คิดอย่างหนึ่งอยู่ คิดอีกอย่างตาย จะเป็นหรือตาย อยู่ที่ความคิดชั่ววูบ" 
ความคิดชั่ววูบกำหนดความเป็นความตาย
( พระสนมฉานฮวาใช้เตือนสติลูกชายที่กำลังหลงผิด หมายถึง การคิดผิดกำหนดความเป็นความตาย )
.......................

臣跪天、跪地、跪皇上、跪双亲、跪师长,唯不跪乱臣贼子。

          ข้าคุกเข่าให้ฟ้าดิน  ให้ฮ่องเต้  ให้พ่อแม่  ให้ครูบาอาจารย์  ไม่คุกเข่าให้โจรกบฎ 
(คำพูดแม่ทัพเซี่ยชี่เฉินแคว้นเว่ยที่ไม่ยอมก้มหัวให้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง)
..............

พบว่าผู้บงการ ผู้ร้าย คือคนที่ทำตัวเป็นคนมีเมตตา เป็นคนที่ได้รับความเคารพนับถือในหมู่บ้าน

ผู้ร้ายที่ร้ายที่สุด  คือ ผู้ร้ายที่อยู่ในคราบผู้ดี
ศัตรูที่น่ากลัวที่สุด  คือ ศัตรูที่ซุ่มอยู่ใกล้ตัว
...................................................


เนื้อเรื่องย่อแบบสรุป ต่อจาก เจาะลึกตอน 8 
จากตอน 17 - 18 ภาคภาษาจีน CCTV และตอนที่ 20 - 22 พากย์ไทยจากไทยพีบีเอส 

           แม่ทัพเซี่ยชี่เฉิน(谢弃尘)พามู่หลานเข้าวัง  ฮ่องเต้ทั่วป๋าเทาโกรธมาก  เพราะสุดยอดฝีมือคนนั้นที่แท้คือพระสนมฉานฮวา ซึ่งถูกฮ่องเต้องค์ก่อน (ทั่วป๋าซื่อ) สั่งขังไว้ในตำหนักเย็น(打入冷宫)ไม่ให้พบใคร ไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวัน(不许见天日)มานาน 15 ปีแล้ว  ถ้าจะให้มู่หลานเข้าพบ ก็จะขัดต่อคำสั่งของพระบิดา  แม่ทัพเซี่ยขอให้ฮ่องเต้ยกเลิกกฎนี้โดยขอให้คำนึงถึงสถานการณ์ของชาติเฉพาะหน้าเป็นหลัก
          ♣ ขอเล่าล่วงหน้า ก่อนที่หนังเรื่องนี้จะเฉลยว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร
  

          ที่แท้พระสนมฉานฮวาคือแม่นางฉานฮวา หญิงงามที่ปักผ้าเก่งอันดับหนึ่งของแคว้นเว่ยเมื่อ 30 ปีก่อน  เคยชอบพอและรักกันกับคุณชายฉาน (จินฉานจื่อ) ทั้งสองใช้ดอกซินหยี(辛夷花)ในการสื่อรักตลอดมา 
          ต่อมาแม่นางฉานฮวาถูกนำตัวเข้าวัง  จินฉานจื่อเสียใจมาก จึงกลับไปอยู่โหยวหยาน (เนื่องจากเขาเป็นลูกครึ่งโหยวหยาน) ด้วยความเจ็บแค้นใจ  ต่อมาเขาได้เป็นอาจารย์ที่สอนเหล่าองค์ชายและเป็นถึงอำมาตย์ใหญ่แห่งแคว้นโหยวหยาน  
          ส่วนพระสนมฉานฮวาคิดถึงและลืมจินฉานจื่อไม่ลง 
 จึงปักดอกซินหยีเต็มไปหมด  ฮ่องเต้ไม่ทราบเรื่องราว  สั่งให้ปลูกดอกซินหยีเต็มวังเพื่อเอาใจนาง  

         ต่อมานางได้ประสูติโอรสชื่อทั่วป๋าเส้า(拓拔绍)เป็นองค์ชายที่เฉลียวฉลาด เก่งกล้า จึงได้รับแต่งตั้งเป็นรัชทายาท  
         ตอนทั่วป๋าเส้าอายุ 15 ปี 
 ฮ่องเต้ทั่วป๋าซื่อเกิดล่วงรู้ความจริงเกี่ยวกับดอกซินหยี  โกรธมาก สั่งห้ามปลูกดอกซินหยีทั่วแคว้น  ใครฝ่าฝืนมีโทษประหาร  ตอนนั้นฮ่องเต้จะฆ่าพระสนมฉานฮวา  ทั่วป๋าเส้าถืออาวุธเข้าวังไปช่วยแม่  เกิดการต่อสู้  จึงโดนจับข้อหากบฏ  ต้องโทษประหาร   
         แต่ได้กลุ่มขุนนางและทหารที่ภักดีต่อเขาช่วยชิงตัวหนีไปได้ 
 หลังจากนั้นก็หายสาบสูญ  

         เมื่อฮ่องเต้ทั่วป๋าซื่อสวรรคต  น้องชายต่างมารดาของทั่วป๋าเส้าขึ้นเป็นฮ่องเต้ ( ก็คือฮ่องเต้ทั่วป๋าเทา 拓跋焘  ทำให้ทั่วป๋าเส้าผูกใจเจ็บ  และคิดตลอดเวลาว่า  เขาจะต้องช่วงชิงบัลลังก์กลับคืนให้ได้  เพราะนั่นควรจะเป็นของเขา  จึงเกิดศึกสายเลือดในแคว้นเว่ย  และทั่วป๋าเส้าก็ไปร่วมมือกับจินฉานจื่อฝั่งโหยวหยาน 
........................

(ขอเล่าต่อตามหนังตอนนี้)          
           ในที่สุด  มู่หลานก็ได้พบพระสนมฉานฮวา  เธอพบว่า
ในวังแห่งนั้นเต็มไปด้วยภาพปักดอกซินหยี และก็มีอ่างแช่มือเหมือนที่หวู่เฟิ่งกู่ด้วย  พอพระสนมเห็นมู่หลานแสดงขั้นตอนการแช่มือก่อนปักผ้า ( ทำตามที่เสี่ยวซันจื่อบอกไว้ )  นางก็มีอาการแปลกผิดปกติ   เพราะนางรู้ทันทีว่าเป็นสัญญาณที่สื่อจากลูกชายที่หายสาบสูญเพื่อให้รู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่เป็นหมออยู่ที่หวู่เฟิ่งกู่  

         

        ♣ มีคนสนใจว่าดอกซินหยีหน้าตาเป็นอย่างไร ดูจากภาพปักในหนังก็สวยดี  เหล่าซือจึงเอารูปถ่ายดอกซินหยี 辛夷花 มาฝาก ภาพนี้เหล่าซือถ่ายเองจากมหาวิทยาลัย BLCU ปักกิ่ง ตั้งแต่ปี 2011  ซึ่งดอกไม้ชนิดนี้ปลูกกันทั่วไปในประเทศจีน  ดอกชนิดนี้ยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า
 "ดอกมู่หลาน 木兰花
。。。。。。。。
            (ในหนัง) พระสนมฉานฮวาจึงพูดคำพูดที่มู่หลานรู้สึกแปลกๆ ว่า 
            "ไม่ว่าแม่จะอยู่ที่ไหน  เมื่อรู้ว่าลูกปลอดภัย  แม่ก็สบายใจ"    
           "ดอกซินหยีแม้สวยก็จริง แต่ก็ขมมาก  เป็นยารักษาคนได้  แต่ก็ใช้ฆ่าคนได้ "            
           "คิดอย่างหนึ่งอยู่ คิดอีกอย่างตาย จะเป็นหรือตาย อยู่ที่ความคิดชั่ววูบ"  
           คำที่พระสนมฯ พูดนี้  ความจริงต้องการอาศัยปากของมู่หลานส่งข่าวกลับไปให้ลูกชายที่กำลังหลบหนีอยู่  เตือนให้ลูกชายกลับตัวกลับใจ (แต่มู่หลานไม่รู้เรื่อง  จึงเอาคำพูดเหล่านี้กลับมาเล่าให้หมอหลัวกับเสี่ยวซันจื่อฟังหมดก่อนที่แม่ทัพเซี่ยจะรู้เรื่อง)  
           ส่วนเรื่องเคล็ดลับในการต่อเชื่อมผ้าปักนั้น  พระสนมฯ บอกว่าสอนกันไม่ได้  ต้องอาศัยเข้าใจเอง 
           เมื่อกลับมาถึงหวู่เฟิ่งกู่  ในที่สุดมู่หลานก็พบเคล็ดลับเชื่อมผ้าปักไหมแบบไม่มีรอยต่อได้สำเร็จ
           ในขณะที่เธอกำลังดีใจและทำการเชื่อมผ้าอยู่ในหอปักผ้าอยู่นั้น  ก็เกิดไฟไหม้หอปัก (ซึ่งเป็นบ้านของฝูหลิง) ขึ้น  มู่หลานตกใจร้องเรียกคนช่วย  มองจากบนหอปักลงมา  เห็นท่านหมอหลัว (หลัวเจา(罗昭) เป็นคนวางเพลิงลักษณะตั้งใจจะฆ่าเธอให้ตาย   
           ขณะที่มู่หลานกำลังหมดหวังที่จะรอดจากกองเพลิง  มั่วเจี้ยง (พระเอก) ก็เสี่ยงชีวิตวิ่งเข้าไปช่วยเธอออกจากกองไฟ  มู่หลานเห็นภาพปักไหมถูกไฟไหม้ จะเสี่ยงชีวิตเข้าไปกู้  แต่มั่วเจี้ยงห้ามไว้  และตัดสินใจแสดงฐานะที่แท้จริงของเขาต่อเธอว่าที่จริงเขาเป็นองค์ชายของโหยวหยาน  มีภาพปักหรือไม่มีภาพปักก็ไม่สำคัญ
           มู่หลานโกรธที่มั่วเจี้ยงยังมีเรื่องปิดบังเธออีก
           ............................ 
           แม่ทัพเซี่ยชี่เฉินรีบรุดมายังสำนักหมอเทียนซิงถังเพื่อจับตัวหลัวเจา (หมอหลัวที่ปกติจะเป็นคนมีเมตตาช่วยรักษาชาวบ้านและเป็นที่เคารพนับถือในหมู่บ้าน) 
          หลัวเจาในชุดแต่งกายลายปักมังกรเต็มยศซึ่งแสดงฐานะเชื้อพระวงศ์แคว้นเว่ยได้จับเสี่ยวซันจื่อเป็นตัวประกัน  เสี่ยวซันจื่อร้องเรียกให้แม่ทัพเซียช่วย 
          หมอหลัวบอกว่าตัวเองคือองค์ชายทั่วป๋าเส้า  อดีตชิงเหออ๋องที่แม่ทัพเซียตามหามานาน 15 ปี  เขาสั่งให้แม่ทัพเซียคุกเข่าต่อเขา  แต่แม่ทัพเซี่ยตอบด้วยวลีที่แสดงถึงความไม่ยอมก้มหัวให้กับเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ว่า
            臣跪天、跪地、跪皇上、跪双亲、跪师长。唯不跪乱臣贼子。
          ข้าคุกเข่าให้ฟ้าดิน  ให้ฮ่องเต้  ให้พ่อแม่  ให้ครูอาจารย์  ไม่คุกเข่าให้โจรกบฎ
         ♣ (ตรงนี้ยังแสดงถึงวัฒนธรรม ทัศนคติของชาวจีนที่เคารพนับถือผู้ครองแคว้น พ่อแม่ ครูบาอาจารย์เสมอเคารพฟ้าดินตั้งแต่โบราณกาล)  

          
             
   ( โจรกบฎหรือ ? หลัวเจาหัวเราะหึหึ ) 
       
         หลัวเจาบอกว่าที่ทำไปทุกอย่างเพราะไม่ต้องการให้ตระกูลทั่วป๋าต้องได้รับความอัปยศที่ไปเกี่ยวดองแต่งงานกับพวกชนเผ่าที่ด้อยกว่าให้เสียศักดิ์ศรี(** หมาเหตุจากผุ้เขียน 拓拔 ทั่วป๋า เป็นนามสกุลของราชวงศ์เซียนเปย 鲜卑 หนึ่งในชนเผ่าโบราณ) ในเมื่อฮ่องเต้ทั่วป๋าเทาอ่อนแอ  เขาจึงต้องออกโรงเอง
          แม่ทัพเซี่ยโต้ว่า จุดประสงค์คงไม่ใช่อย่างที่พูดมา  ท่านต้องการขัดขวางการปักผ้าไหม เพื่อต้องการให้เกิดความวุ่นวาย  เกิดสงคราม  จะได้ฉกฉวยโอกาสซ้ำเติมฮ่องเต้ใหม่ที่เพิ่งขึ้นครองราชย์
         คดีฆาตกรรมซ่อนเงื่อนก็เริ่มคลี่คลาย  ที่แท้ชุนโฉว (เพื่อนที่โตมาพร้อมกับมู่หลาน) เป็นลูกของบริวารเก่าที่ภักดีต่อทั่วป๋าเส้า  นางได้รับคำสั่งให้ไปฝึกปักผ้ากับปาเป้ยฉาน (ซึ่งเป็นหนึ่งในคนที่แอบรักแม่ของทั่วเป๋าเส้าตอนหนุ่มๆ )  แต่ชุนโฉวกลับไปได้วิชาเข็มบินมาด้วย  หลัวเจาจึงให้นางใช้เข็มบินฆ่าแม่ฝูหลิงกับแม่มู่หลานโดยไม่ทิ้งร่องรอย  ชุนโฉวทำไปเพราะรักหมอหลัว 
         หลัวเจานึกว่าตอนนี้เขาบรรลุจุดประสงค์แล้ว  ภาพปักไหมพร้อมคนปักที่รู้เคล็ดลับการเชื่อมผ้า (มู่หลาน) ถูกเผาไปเรียบร้อย  ไม่มีภาพปักไหม  โหยวหยานจะต้องถือโอกาสประกาศสงครามกับแคว้นเว่ยแน่นอน
          เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ขอมาเล่าต่อตอนหน้า ..............................................

ปิดท้ายด้วยการเอาใจติ่งของ "แม่ทัพเซี่ยชี่เฉิน" (ดาราจีนแผ่นดินใหญ่ "อ้ายตุง"  艾东  Dong Ai  ชื่อจำง่ายดี)  
ด้วยรูปของ อ้ายตุง 1 ภาพ เขาเป็นดาราที่แสดงได้ทั้งบทดีและบทร้าย 



 


เนื้อเรื่องย่อ  สาระ วัฒนธรรม ภาษา สำนวนจีน
อ่าน มู่หลาน เจาะลึก ตอน 1 (คลิกที่นี่)

มู่หลาน  ตอน 4 (คลิกที่นี่)
มู่หลาน  ตอน 5 (คลิกที่นี่)

มู่หลาน  ตอน 6 (คลิกที่นี่)


มู่หลาน ตอน 8 (คลิกที่นี่)

เพลงประกอบตอนจบ (คลิกที่นี่)
เพลงประกอบ 问月 (คลิกที่นี่)


ซีรีย์เรื่องนี้แพร่ภาพในจีนปี 2013
และกำลังแพร่ภาพทางไทยพีบีเอส 2015  เสาร์และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. โดยประมาณ

ดูหนังเรื่องนี้ภาคภาษาจีนทางยูทูป ที่ลิงค์นี้ (คลิกที่นี่)


พากย์ไทย ที่คุณ naruto_multiThree อัพไว้ในยูทูปหลังไทยพีบีเอสออกอากาศ  (ดูได้ที่นี่) 




ดูทางยูทูป เสียงภาษาจีน มีซับอังกฤษ (ไม่ได้เรียงตอน) ไปที่ลิงค์นี้ (ที่นี่)
...............................    





ขอบคุณทุก ๆ คลิกและทุกความคิดเห็นตั้งแต่ตอนที่ 1 - ตอนปัจจุบัน 

Flag Counter @@@............

วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2558

มู่หลาน จอมทัพหญิงกู้แผ่นดิน เจาะสาระ 8 สงคราม หรือ ภูมิปัญญาสร้างชาติ


 
มู่หลาน จอมทัพหญิงกู้แผ่นดิน ซีรีส์จีน เวอร์ชั่น 2013 

花木兰传奇 The Legend of Hua Mulan
การได้ดูหนังดีสักเรื่อง เหมือนได้อ่านหนังสือดีหลายเล่ม 
เขียนโดย สุวรรณา สนเที่ยง 张碧云
。。。。。。。。。。。。。

เจาะลึกข้อคิด สาระ และ เกร็ดภาษาจีนจากหนัง

เรากลัวถูกรังแก  แต่ก็ไม่จำเป็นต้องรังแกใครก่อน 
怕被别人欺负,并不一定要先欺负别人

เราต้องสร้างตัวเองให้เข้มแข็งอย่างแท้จริง  ก็จะไม่มีใครกล้ารังแกเรา 

...................................................


เนื้อเรื่องย่อแบบสรุป  (จากตอน 15 -16  ภาคภาษาจีน ) ต่อจากตอนที่ 7

          หลังจากชุนโฉวตายแล้ว  ทางจินฉานจื่อ ( 金蚕子อำมาตย์แห่งแคว้นโหยวหยาน )  ก็ส่งนักฆ่าจากโหยวหยานมาลอบฆ่ามู่หลานอีก  มั่วเจี้ยงได้ช่วยชีวิตเธอไว้อีกครั้ง  แม้มู่หลานจะไม่รู้ว่าใครช่วย และเธอไม่ได้รู้สึกขอบคุณมั่วเจี้ยงแต่อย่างใด  แต่เมื่อมั่วเจี้ยงเห็นเธอปลอดภัยดี  ก็โล่งใจและดีใจจนยกแขนเสื้อขึ้นมาซับน้ำตา  

         ในตอนนี้  มีฉากสำคัญที่แสดงถึงวิสัยทัศน์ในการสร้างชาติ พัฒนาชนเผ่าของ "องค์ชายตัวหลุน 多伦王子" 
         เขาสั่งให้เส้อหลุน (ลูกน้อง) รีบกลับโหยวหยานก่อน  เพราะแม่ทัพเซี่ยชี่เฉินเริ่มสงสัยว่าพวกเขาเป็นสายลับแล้ว  ส่วนตัวเขาจะอยู่คุ้มกันการปักผ้าก่อน เส้อหลุนถามว่า องค์ชายเปลี่ยนมาเป็นการคุ้มกันการปักผ้าทำไม  ลืมแล้วหรือว่าตัวเองเป็นองค์ชายของโหยวหยาน 
         มั่วเจี้ยง (องค์ชายตัวหลุน) ตอบว่า "ก็เพราะข้าเป็นองค์ชายของโหยวหยาน ข้ารักโหยวหยาน ข้าอยากให้โหยวหยานเข้มแข็งอย่างแท้จริง (我希望柔然真正地强大)จึงต้องใคร่ครวญใหม่  เส้อหลุนบอกว่าไม่เข้าใจ  
         ตัวหลุน ฝากเส้อหลุนไปรายงานจินฉานจื่อว่า นักฆ่าที่เขาส่งมาตายหมดแล้ว  หวังว่าชีวิตคนเหล่านี้จะทำให้เขาคิดได้  วิธีลอบฆ่าไม่สามารถทำลายปณิธานของชาวจงหยวน (เว่ย) ได้ 
         ตัวหลุนเปรียบเทียบ ม้าพันลี้ กับ ตัวไหม ว่า
"ม้าดีของโหยวหยานวิ่งเร็วได้ถึงวันละพันลี้ก็จริง  แต่อย่างมากไกลสุดก็ไปได้แค่แถวแม่น้ำเออร์ทิช  
แต่ตัวไหมตัวเล็กๆ ของชาวจงหยวน กลับสามารถเดินทางไปได้ไกลถึงเปอร์เซียด้วยเส้นทางสายไหม  
เราทำศึกสงคราม ปล้นฆ่าไปทั่วเพื่อขยายอาณาเขต  สิ่งที่ได้มาก็แค่ทุ่งหญ้าไม่กี่ผืน  
แต่ตัวไหมเล็กๆ นั้น คายเส้นใย สร้างรัง เมื่อชาวจงหยวนนำมาทอเป็นผ้าไหม กลับสามารถแลกเงินทองกลับมาได้มากมาย  สร้างความมั่งคั่งให้พวกเขาเกินกว่าที่เราคิด 
(ตัวหลุนกำลังพูดถึงภูมิปัญญาของชาวจงหยวนในการสร้างความมั่งคั่งและเขาเริ่มคิดทบทวนแนวทางในการสร้างความเข้มแข็งให้กับชนเผ่าของตนเอง)  
          เส้อหลุน บอกว่า นั่นสิ ชาวหวู่เฟิ่งกู่ (ที่มีอาชีพทอปักผ้าไหมขาย) มีฐานะดีกว่าชาวโหยวหยานเราหลายเท่า    
          ตัวหลุนพูดต่อว่า หวังว่าท่านอำมาตย์ (จินฉานจื่อ) จะคิดได้ (ว่าวิธีการที่ใช้อยู่ไม่ถูก) เรากลัวถูกรังแก  แต่ก็ไม่จำเป็นต้องรังแกใครก่อน  เราต้องสร้างตัวเองให้เข้มแข็งอย่างแท้จริง  ก็จะไม่มีใครกล้ารังแกเรา     
      
          ถึงตอนนี้ เส้อหลุนพูดว่า "ข้าเข้าใจแล้ว" (我明白了)
          "ถึงแม้สิ่งที่ข้าทำตอนนี้ขัดต่อความคิดของท่านอำมาตย์  แต่ก็เป็นสิ่งที่องค์ชายผู้รักโหยวหยานควรทำ" (ช่วงนี้อยู่ในตอนที่ 19 พากย์ไทย และอยู่ในตอนที่ 15 ภาคภาษาจีน)

          แม่ทัพเซี่ยชี่เฉินสงสัยเหลือเกินว่ามั่วเจี้ยงเป็นใครกันแน่  แต่ขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกว่ามั่วเจี้ยงห่วงใยมู่หลานจากใจจริง น่าจะไม่มีเจตนาร้าย  เขาจึงบอกมู่หลานว่ามั่วเจี้ยงเป็นคนที่ช่วยมู่หลานให้พ้นจากการลอบฆ่า  คนที่เธอควรจะขอบคุณคือมั่วเจี้ยง (ไม่ใช่แม่ทัพเซี่ย)
          มู่หลานฟังแม่ทัพเซี่ยพูดแล้วก็คิดได้  จึงไปขอบคุณมั่วเจี้ยงที่ช่วยชีิวิตเธอไว้อีกครั้ง  และตอบรับที่จะเป็นเพื่อนกับเขาเหมือนเดิม (ทั้งสองคืนดีกัน) 
         บทนี้ มู่หลานพูดว่า
พ่อเป็นคนสอนให้เธอรู้จักให้อภัยศัตรู  มีแต่ให้อภัยศัตรู  และจะต้องหัดเป็นเพื่อนกับศัตรู  สันติภาพจึงจะเกิดขึ้นได้จริง  ถ้าให้อภัยศัตรูไม่ได้  ต่อให้ปักผ้า (ที่จะใช้เป็นของขวัญแต่งงานปรองดองระหว่างสองแคว้น) อีกสักกี่ผืนก็ไม่มีความหมาย 
         มั่วเจี้ยงดีใจที่มู่หลานให้อภัยเขา  เขาชวนมู่หลานขึ้นหลังม้าของเขาขี่ไปที่ทุ่งหญ้า (แถวอู่เฟิ่งกู่) 
 เขาบอกกับเธอว่า  อยากจะพามู่หลานไปที่ทุ่งหญ้าของเขา  " ที่ทุงหญ้าเรา  พอถึงฤดูใบไม้ผลิ  ดอกไม้ก็จะบานสะพรั่งมากมายเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า  มีสีสรรสวยงามหลากหลาย  สวยเหมือนแดนสวรรค์"   
在我们草原上,一到春天,花就像天上星星一样多,各种颜色的,美得就像仙境。
         มู่หลานตอบว่า "ถ้าสวยขนาดนั้นจริง ข้าก็จะไปปักรูปดอกไม้เหล่านั้นขึ้นมาให้หมดเลย"  
         มั่วเจี้ยงบอกว่ามีเยอะมาก
 ต้องใช้เวลาทั้งชีวิตในการปักเลยนะ  "บอกข้าก่อนว่าเจ้ายินดีมั้ย ? " ( เป็นวิธีการถามความสมัครใจของผู้หญิงแบบอ้อมๆ ว่ายินดีจะไปใช้ชีวิตที่ทุ่งหญ้าร่วมกับเขาตลอดไปมั้ย ) 
         ฉากนี้แสดงถึงความใฝ่ฝันของหนุ่มสาวคนธรรมดาที่ใฝ่ฝันในการใช้ชีวิตปกติสุขกับโลกที่งดงาม
     
         มู่หลันตอบว่าขอทำผ้าปักให้เสร็จก่อน  ค่อยมาตอบคำถามว่ายินดีที่จะไปอยู่ทุ่งหญ้ากับเขาหรือไม่  
         มั่วเจี้ยงบอกว่าเขาจะรอ
  แต่ถึงมู่หลานไม่ตอบเขาตอนนี้ เขาก็ดีใจมาก  มู่หลานถามเขาว่าดีใจทำไม  เขาตอบว่า " สำหรับชาวทุ่งหญ้าเรา  หญิงสาวที่ยอมขึ้นม้าของชายหนุ่มคนใด  แสดงว่าใจของเธอเป็นของชายคนนั้นแล้ว"

            
         ฉากนี้เป็นฉากซึ้งๆ อีกฉากหนึ่งที่เป็นเหมือนคำมั่นสัญญา
 ทำให้ทั้งคู่ลืมกันไม่ได้ ฆ่ากันไม่ลงเมื่อเจอกันในสนามรบ
         ต่อมาเมื่อสงครามสองแคว้นเกิดขึ้น  มั่วเจี้ยงกลับมาหามู่หลานเพื่อจะพานางหนีไปกับเขา  แต่ตอนนั้นก็ต้องผิดหวังกลับไป  เพราะมู่หลานหายไปจากหวู่เฟิ่งกู่เสียแล้ว
         หนังเรื่องนี้สร้างให้ชีวิตรักของหนุ่มสาวคู่นี้รันทดน่าเห็นใจที่สุด
 ตอนที่คุยกันนั้น  ไม่มีใครคาดคิดว่ามู่หลานจะกลายเป็นนักรบที่ชนะศึกชิงเมืองกับ "องค์ชายตัวหลุน" ที่ทั้งรบเก่งและฉลาดหลักแหลมได้  ส่วนจะชนะด้วยวิธีใดนั้น  ...................
         หลังจากคุยกันที่ทุ่งหญ้าวันนั้น  มั่วเจี้ยงก็ไปนั่งเฝ้าที่หน้าหอปักผ้าและคุ้มครองให้มู่หลานปักผ้า รวมทั้งสีซอหัวหมาป่ากล่อมทุกวัน  เมื่อมู่หลานได้ยินเสียงซอของเขา  ก็จะรู้ว่าเขาอยู่ใกล้ๆ  มู่หลานจึงจำเสียงซอของเขาได้ขึ้นใจ  ต่อมาเมื่อสองทัพเผชิญหน้ากัน  เสียงซอของเขาทำให้มู่หลานซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามล่วงรู้ว่า "ตัวหลุน" มาบัญชาการรบอยู่ที่นั่น  สถานการณ์การรบจึงพลิก 
          
         ในที่สุดผ้าปักดอกไม้สี่ฤดูก็ปักสำเร็จ   ขาดแต่ต้องเชื่อมให้เป็นผืนเดียวกันห้ามมีรอยต่อตามที่ทางโหยวหยานได้ตั้งเงื่อนไขไว้   ไม่มีใครเชื่อมผ้าได้สำเร็จ  ปาเป้ยฉาน (ผู้อาวุโสของหมู่บ้าน) บอกว่าในโลกนี้มีเพียงคนเดียวที่ทำได้  แต่ยอดฝีมือคนนี้หายไปเมื่อ 15 ปีก่อน  แม่ทัพเซี่ยตัดสินใจพามู่หลานเข้าวังเพื่อไปหาคนๆ นึง   
         หมอหลัว (หลัวเจา) รู้ว่าผ้าปักไหมใกล้สำเร็จแล้ว
 จึงผสมยาพิษในน้ำแช่มือด้วยความเจ็บปวด เพื่อนำไปฆ่ามู่หลานให้ตายทั้งที่เขารักและชอบมู่หลานมาก  ในขณะที่เธอกำลังจะเอามือจุ่มลงไป  เสี่ยวซันจื่อ (ลูกมือของหมอหลัว)  ได้ยินว่ามู่หลานกำลังจะเข้าวังเพื่อไปหาสุดยอดฝีมือปักผ้าคนหนึ่ง  เสี่ยวซันจื่อก็ทำอ่างแช่มือหก  ทำให้มู่หลานรอดตาย  เสี่ยวซันจื่อบอกมู่หลานว่า ถ้าได้พบยอดฝีมือท่านนั้นแล้ว อย่าลืมทำกรรมวิธีแช่มือของหวู่เฟิ่งกู่เราให้ท่านดูนะ ............................... 
 



เจาะลึก มู่หลาน จอมทัพหญิงกู้แผ่นดิน ซีรีย์จีน ตอน 1 花木兰传奇观后感 ตอนแรก (คลิกที่นี่)


 เนื้อเรื่องย่อ  สาระ วัฒนธรรม ภาษา สำนวนจีน

อ่าน มู่หลาน เจาะลึก ตอน 1 (คลิกที่นี่)

มู่หลาน  ตอน 4 (คลิกที่นี่)
มู่หลาน  ตอน 5 (คลิกที่นี่)

มู่หลาน  ตอน 6 (คลิกที่นี่)


มู่หลาน  ตอน 8 (คลิกที่นี่)



เพลงประกอบตอนจบ (คลิกที่นี่)
เพลงประกอบ 问月 (คลิกที่นี่) 

ซีรีย์เรื่องนี้แพร่ภาพในจีนปี 2013
และกำลังแพร่ภาพทางไทยพีบีเอส 2015  เสาร์และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. โดยประมาณ

ดูหนังเรื่องนี้ภาคภาษาจีนทางยูทูป ที่ลิงค์นี้ (คลิกที่นี่)


พากย์ไทย ที่คุณ naruto_multiThree อัพไว้ในยูทูปหลังไทยพีบีเอสออกอากาศ  (ดูได้ที่นี่) 




ดูทางยูทูป เสียงภาษาจีน มีซับอังกฤษ (ไม่ได้เรียงตอน) ไปที่ลิงค์นี้ (ที่นี่)
...............................    



ขอขอบคุณทุก ๆ คลิกและความคิดเห็นตั้งแต่ตอนที่ 1 -  ตอนปัจจุบัน 
Flag Counter @@@............

วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2558

มู่หลาน จอมทัพหญิงกู้แผ่นดิน เจาะสาระ 7 ความรักที่ไม่ใช่การอิจฉาริษยา


มู่หลาน จอมทัพหญิงกู้แผ่นดิน ซีรีส์จีน เวอร์ชั่น 2013 
花木兰传奇 The Legend of Hua Mulan
การได้ดูหนังดีสักเรื่อง เหมือนได้อ่านหนังสือดีหลายเล่ม 

เขียนโดย สุวรรณา สนเที่ยง 张碧云 
   
   " ถ้าเจ้าปฏิบัติต่อคนๆ หนึ่งเหมือนเขาเป็นศัตรู  ถ้างั้นเขาก็เป็นศัตรู  
   แต่ถ้าเจ้าปฏิบัติต่อคนๆ หนึ่งเหมือนมิตร  เขาก็จะเป็นมิตร"
(คำพูดพ่อมู่หลาน)    
如果你像对待敌人一样去对待一个人,那他就是敌人。
........................................

          ซีรีย์จีนเรื่องนี้  เริ่มเขียนบทเมื่อเกือบ 10 ปีก่อน  ใช้เวลาเขียนบท 7 ปี  มีคำคมและสำนวนจีนสอดแทรกอยู่มากมาย  
          เริ่มถ่ายทำปี 2011 แพร่ภาพทาง CCTV จีนปี 2013  แพร่ภาพในไทยทางไทยพีบีเอส ตั้งแต่มิถุนายน 2015 ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่มีหลายพื้นที่ตกอยู่ภายใต้ไฟสงครามซึ่งกำลังทำลายชีวิตของผู้บริสุทธิ์มากมาย...... หลายครอบครัวสูญเสียคนที่รัก  หลายคู่รักพรากจากกันชั่วชีวิต
         หนังยังได้สอดแทรกเรื่องความรักแบบต่างๆ ไว้หลายแง่มุม  ความรักของตัวละครเกือบทุกตัวเป็นความรักที่บริสุทธิ์  เป็นรักแท้ที่เกิดจากความเข้าใจความชื่นชมอีกฝ่าย  ไม่ใช่เพราะรูปร่างหน้าตา  เป็นรักที่เสียสละไม่ใช่เพื่อครอบครอง  ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์  และไม่ใช้วิธีแย่งชิงความรักด้วยเล่ห์กลด้วยมารยาหรือจ้างคนไปฆ่าอีกฝ่าย  ยกเว้นความรักสามเส้าของฮ่องเต้ทั่วป๋าซื่อ จินฉานจื่อ กับ พระสนม (แม่ของทั่วป๋าเส้า) ที่รักกลายเป็นแค้นจนเป็นความขัดแย้งส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดสงครามระหว่างแคว้น   
          สิ่งที่ผู้ประพันธ์บทแต่งให้ผิดแผกจากมู่หลานเวอร์ชั่นอื่นๆ ก็ตรงที่คู่รักของมู่หลานเป็นแม่ทัพศัตรูของชาติแทนที่จะเป็นเพื่อนร่วมรบชาติเดียวกันเหมือนทุกเวอร์ชั่นที่ผ่านมา    
             
ผู้ประพันธ์บท เรื่องมู่หลาน
苏晓苑  ซู เสี่ยวเยวี่ยน  
向以鲜  เซี่ยง หยี่เสี๊ยน  
刘继安  หลิว จี้อั๊น
ผู้กำกับการแสดง 
熊郁    สรุงยวี้   
卫韬    เว่ยเท้า 
  
เนื้อเรื่องย่อแบบสรุป  (จากตอน 12 - 13 - 14 เวอร์ชั่นภาษาจีน ) 
ต่อจากตอนที่แล้ว (อ่านความเดิม ตอน 6 คลิกที่นี่)

          มู่หลานเสียใจที่รู้ความจริงว่า  ที่แท้ มั่วเจี้ยงเป็นคนขโมยแร่ย้อมไหมสีเหลืองไปเพื่อขัดขวางการปักผ้า(ปรองดอง) จึงไม่พูดขอบคุณมั่วเจี้ยงเลยแม้แต่คำเดียวหลังได้ยาแก้พิษและหายจากตาบอดแล้ว  
          เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามั่วเจี้ยงต้องเสี่ยงกับอะไรบ้างในการไปเอายาแก้พิษควันมาให้นาง  จนกระทั่งตอนท้ายเรื่องถูกลูกน้องพระเอกด่านางถึงได้รู้ (ซึ่งต่อมาเรื่องนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งที่มั่วเจี้ยงหรือองค์ชายตัวหลุนถูกใส่ร้ายว่าสมคบกับชาวเว่ยทรยศต่อชาติตัวเองจนถูกปลดจากองค์ชายและถูกลงโทษ)
          ฝ่ายมั่วเจี้ยง เขาเริ่มสงสัยว่า  ท่านหมอหลัว (หลัวเจา) ก็คือคนที่ใช้ดอกซินหยีเป็นสัญลักษณ์ในการสื่อสารกับแคว้นโหยวหยาน  เขาจึงหาเรื่องเข้าไปที่สำนักของหมอหลัวหลายครั้ง  แต่ก็ไม่ได้อะไรชัดเจน  เนื่องจากหมอหลัวก็ระแวงสงสัยไม่กล้าวางใจในตัวมั่วเจี้ยงเช่นกัน 
          เรื่องร้ายก็ยังเกิดขึ้นกับครอบครัวมู่หลานต่อไป  
          คราวนี้ผู้เคราะห์ร้ายที่โดนฆ่าตายอีกคนคือแม่ของมู่หลานซึ่งเป็นกำลังหลักในการปักผ้าแทนซือเหนียง  นางถูก "เข็มบิน" ซัดเข้าที่หูฆ่าทันทีอีกคน  แต่คนร้ายอำพรางเป็นการตกตึกตาย  
          ครั้งนี้แม่ทัพเซี่ยชี่เฉินมั่นใจว่าฆาตกรจะต้องเป็น "คนใน" ที่อยู่ในหอปักผ้า (ตั้งอยู่ในบ้านฝูหลิง) แน่นอน  แต่ในหอปักผ้าก็มีแต่สาวๆ ที่เติบโตมาพร้อมกันกับมู่หลานและฝูหลิงตั้งแต่เด็กทั้งนั้น
          มั่วเจี้ยงมาคารวะศพแม่มู่หลาน  และขอคุยกับมู่หลานตามลำพัง  เขายอมรับกับมู่หลานเป็นครั้งแรกว่าตนเองเป็นคนโหยวหยาน  เดิมเป็นศัตรูที่จะมาเพื่อขัดขวางการปักผ้า (คืออยากให้รบกัน  แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว) 
          เขาบอกเธอว่า  นับตั้งแต่แต่วินาทีที่เขาตัดสินใจไปเอายาแก้พิษมาให้  ก็ได้ละทิ้งความตั้งใจเดิมที่เป็นศัตรูกับชาวเว่ยแล้ว  อยากเป็นเพื่อนกับมู่หลานจริงๆ  อยากเห็นคนสองแคว้นอยู่ร่วมกันอย่างสันติ  เขาจะหันมาปกป้องการปักผ้าแทนการขัดขวาง  เขาหวังว่ายาแก้พิษกระบอกนั้นจะทำให้มู่หลานเชื่อในความจริงใจของเขา 
          นี่เป็นคำสารภาพและอ้อนวอนขอไมตรีจากปากของแม่ทัพแห่งแคว้นโหยวหยานที่เก่งกาจและพิชิตศึกมานับไม่ถ้วน  (แต่มู่หลานไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร) 
          มู่หลานไม่เชื่อ เธอแค้นที่มั่วเจี้ยงหลอกลวงเธอและทำให้พ่อเธอเกือบตาย  ด้วยอารมณ์โกรธ จึงใช้มีดพกของมั่วเจี้ยงแทงมั่วเจี้ยงบาดเจ็บโดยไม่ตั้งใจ  เธอย้ำว่า จะไม่ขอเป็นเพื่อนกับชาวโหยวหยานเด็ดขาด
          มั่วเจี้ยงตั้งคำถามว่า "ถ้าเจ้ามองชาวโหยวหยานเป็นศัตรูทั้งหมด  ถ้าเจ้ายอมรับชาวโหยวหยานเป็นเพื่อนด้วยไม่ได้  แล้วจะทุ่มเทเสี่ยงตายปักผ้าผืนนั้นไปทำไมกัน ? "  



         ( บทพูดของพระเอกในตอนนี้พูดให้แง่คิดว่า  ในเมื่อให้อภัยศัตรูที่กลับใจมาเป็นมิตรไม่ได้  แล้วการทุ่มเทปักผ้าไหมเป็นของขวัญสมรสนั้นจะมีความหมายอะไรล่ะ)
         ตอนนี้ พระเอกก็ยังไม่ได้บอกรักนางเอก  แค่บอกว่าอยากเป็นเพื่อนเฉยๆ   และก็ยังไม่กล้าบอกว่าไอ้ควันพิษที่ทำให้นางตาบอดนั้นน่ะ  เป็นฝีมือของลูกน้องข้าเองแหละ  แค่บอกว่าตัวเองเป็นชาวโหยวหยานเรื่องเดียวนางก็ยังเอามีดจิ้มเลย  ขืนบอกอะไรมากกว่านี้  เป็นแม่ทัพเป็นองค์ชายฝ่ายศัตรูละก้อ  โดนนางแทงพรุนแน่     

         มู่หลานกลับบ้านเอาเรื่องนี้มาบอกพ่อ  พ่อมู่หลานให้แง่คิดกับลูกว่า
         " ถ้าเจ้าปฏิบัติต่อคนๆ หนึ่งเหมือนเขาเป็นศัตรู  ถ้างั้นเขาก็เป็นศัตรู  
               แต่ถ้าเจ้าปฏิบัติต่อคนๆ หนึ่งเหมือนมิตร  เขาก็จะเป็นมิตร "
         ส่วนเรื่องที่จะเชื่อใจมั่วเจี้ยงต่อไปได้หรือไม่นั้น  พ่อมู่หลานแค่พูดว่า 
         "ลูกโตแล้ว พ่อเชื่อว่าลูกแยกแยะเองได้"
         มู่หลานจึงขอให้ จู้จื่อ หลานชายของย่าบอดเอายาสมานแผลไปให้มั่วเจี้ยงที่ถูกเธอแทงบาดเจ็บ
         มั่วเจี้ยงรู้ว่ายานี้ต้องเป็นมู่หลานวานให้จู้จื่อเอามาให้แน่  เพราะมีเพียงคนเดียวที่รู้ว่าเขาบาดเจ็บจากมีดแทงที่หน้าอก  เขาชวนจู้จื่อกินเหล้าแก้กลุ้ม เขาบอกว่า เหล้านี่ดีจริงๆ เลย พอมันพุ่งขึ้นไปที่สมอง จะเป็นช่วงที่วิเศษที่สุด เรื่องกลุ้มทั้งหลายหายเกลี้ยงเลยล่ะ  
         จู้จื่อบอกว่าตนก็มีเรื่องกลุ้มเหมือนกัน คือ หลงรักคนที่เขาไม่รักเรา (จู้จื่อแอบรักฝูหลิง) มั่วเจี้ยงพูดว่า แค่นี้จะน่ากลุ้มตรงไหน  ข้าสิกลุ้มหนักกว่า  เพราะคนที่ข้ารักบอกว่าเขาเกลียดข้าน่ะ......... (มั่วเจี้ยงรักมู่หลานคนเดียว  โดยไม่สนใจ เฮ่อหุง ลูกสาวจินฉานจื่อ และ ฝูหลิง สองสาวงามที่แสดงออกว่ารักเขาอย่างชัดเจน)
                                ...........................................................................
           ฝูหลิง และ ชุนโฉว (ลูกศิษย์ ปาเป้ยฉาน - ผู้อาวุโสของหมู่บ้าน) มาคารวะศพแม่มู่หลาน 
         ( ฝูหลิง  ชุนโฉว และ มู่หลาน เป็นเพื่อนสนิทที่โตมาด้วยกัน ) 
          มู่หลานบอกกับเพื่อนซี้ทั้งสองว่า  เธอจะทำหน้าที่เป็นตัวหลักในการปักผ้าปรองดองแทนแม่ต่อไป  ถ้าเธอเกิดเป็นอะไรไปอีกคน  ก็ให้คนที่เหลือรับหน้าที่ทำต่อไปจนสำเร็จ   
         ในระหว่างที่ทั้งสามจับมือกันเพื่อแสดงความแน่วแน่ร่วมกันนั้น  มู่หลานแทบช็อคที่บังเอิญพบว่าที่นิ้วมือของ ชุนโฉว มีรอยเนื้อด้านแบบเดียวกันกับนิ้วที่เธอฝึก "เข็มบิน"  ตอนรักษามือสั่น
         เมื่อพิสูจน์จนแน่ใจแล้วว่า นิ้วของ ชุนโฉว มีรอยด้านเช่นนั้นจริงๆ  มู่หลานเสียใจน้ำตาอาบแก้ม   ไม่อยากจะเชื่อว่าเพื่อนสนิทที่โตมาด้วยกันจะกลายเป็นฆาตกรโหดที่ฆ่าทั้งแม่ฝูหลิงและแม่ของเธอไปได้   
          ผู้ร้ายคนแรกก็ชายที่ตัวเองชอบ   ผู้ร้ายคนต่อมาที่ร้ายยิ่งกว่าก็คือเพื่อนสนิทที่โตมาด้วยกัน   
         เมื่อปาเป้ยฉาน กับ แม่ทัพเซี่ยทราบเรื่อง จึงสั่งค้นห้องของชุนโฉวซึ่งเป็นศิษย์ของเปาเป้ยฉานมานานนับ 10 ปี          
         พบผ้าปักไหมรูปดอกโบตั๋นของมู่หลานที่ถูกสับเปลี่ยนเป็นภาพปักดอกซินหยีจนทำให้มู่หลานเกือบโดนตัดหัวเมื่อครั้งประกวดช่างปัก  และพบช่องลับที่ชุนโฉวใช้แอบดูปาเป้ยฉานฝึกวิชาเข็มบิน  
          ชุนโฉว  ไหวตัวก่อน จึงหนีไปที่สำนักหมอของหลัวเจา (หมอที่คนในหมู่บ้านให้ความเคารพ)  นางบอกหลัวเจาเป็นครั้งสุดท้ายว่านางใฝ่ฝันที่จะเป็นคนธรรมดาสามัญคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชายที่ตัวเองรักเหมือนคู่สามีภรรยาทั่วไป (นี่ก็ความรักทำให้ทุกข์) 
          หลัวเจาบอกชุนโฉวว่า " เจ้าได้ทำในสิ่งที่ควรทำแล้ว  ชะตาชีวิตคนเราถูกกำหนดไว้แล้วตั้งแต่เกิด  เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ "   ( หมายถึงเลือกทางเดินของตัวเองไม่ได้ )
          ที่แท้ชุนโฉวเป็นลูกองครักษ์ของอดีตรัชทายาท (ทั่วป๋าเส้า - ซึ่งถูกฮ่องเต้องค์ก่อนปลดด้วยข้อหากบฎจะฆ่าพ่อ) ที่มีโทษประหารชีวิตหลายชั่วโคตร (ด้วยเบื้องหลังของครอบครัวที่ไม่ใช่คนธรรมดา เธอจึงเลือกทางเดินของตัวเองไม่ได้)  นางต้องปิดบังฐานะที่แท้จริงและถูกส่งไปฝึกวิชากับปาเป้ยฉานเพื่อรอโอกาสช่วยทั่วป๋าเส้าช่วงชิงบัลลังก์คืน (แต่ในหนัง ตอนนี้ยังไม่เฉลยว่าชุนโฉวเป็นใคร)  
          ชุนโฉวหลงรักหมอหลัว  จึงยอมทำตามคำสั่งของหมอหลัวทุกอย่าง  แต่หมอหลัวแอบรักมู่หลาน  จึงไม่ชอบขี้หน้าของมั่วเจี้ยงเท่าไหร่นัก  (โอ้ รักหลายเส้ามาก)   
          ชุนโฉวเป็นตัวอย่างความรักอีกแบบ  นางเคยบอกกับมู่หลานว่า "ถ้าข้าชอบใครสักคนนึง  เขาขอให้ข้าทำอะไร ข้าก็จะทำตามทุกอย่าง  แค่หวังว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับเขาตลอดไป" นางจึงยอมทำทุกอย่างเพื่อคนที่ตนรัก
          เมื่อแม่ทัพเซี่ยกับมู่หลานมาถึงสำนักหมอหลัว  ชุนโฉวสารภาพว่าเรื่องทั้งหมดนางเป็นคนทำเอง  เมื่อมู่หลานถามว่า ทำไมถึงเป็นพี่ไปได้  พี่ทำเพื่ออะไร  ชุนโฉวตอบว่า "เพราะชะตาลิขิต"  แล้วเธอก็เอามือแช่ลงไปในอ่างแช่มือที่ใส่ยาพิษไว้  เสียชีวิตทันที 

          เรื่องน้ำแช่มือผสมยาพิษนี้  ยังมีอีกในตอนต่อๆ ไป 
          เรื่องเข็มบิน  ก็ยังตามไปจนถึงตอนใกล้จบ 
          เรื่องผ้าปัก เรื่องแช่มือ เรื่องดอกซินหยี  ก็ไม่ยอมจบง่ายๆ  ยังผูกเรื่องให้โยงใยไปถึงเรื่องอดีตรัชทายาททั่วป๋าเส้า โยงใยไปถึงเรื่องราวความรักที่กลายเป็นความแค้นของคนรุ่นก่อนระหว่างจินฉานจื่อ (อำมาตย์ฝ่ายโหยวหยานที่เป็นลูกครึ่งชาวเว่ย) พระมารดาของทั่วป๋าเส้า ฮ่องเต้องค์ก่อน กับ ปาเป้ยฉาน 
          ผู้เขียนบทหนังเรื่องนี้  สามารถเอารายละเอียดต่างๆ ไปผูกเชื่อมเข้ากัน และ ไขปริศนาออกมาทีละข้อ ทำให้คนดูอินและชวนติดตาม
               ..........................................
          หลังการตายของชุนโฉง แม่ทัพเซี่ยวิเคราะห์ว่า ชุนโฉวทำไปเพื่อต้องการตำแหน่งช่างปักอันดับหนึ่ง (ตอนนี้ผู้ร้ายตายแล้ว  สบายใจได้ ไม่มีใครมาขัดขวางการปักผ้าอีกแล้ว - ตอนนี้มู่หลานก็ยังไม่กล้าบอกแม่ทัพเซี่ยว่ามั่วเจี้ยงเป็นสายลับที่ปลอมตัวมาขัดขวางด้วยอีกคน - ถ้าบอกมั่วเจี้ยงก็จะถูกแม่ทัพเซี่ยตัดหัวแน่ เพราะแม่ทัพคนนี้ไม่เคยไว้ชีวิตสายลับ) 
          แต่มู่หลานเชื่อว่าจะต้องมีอะไรซับซ้อนกว่านี้  ถึงแม้ชุนโฉวจะตายแล้ว  แต่หวู่เฟิ่งกู่คงยังไม่สงบแน่ 
          ดูถึงตอนนี้  ก็อดวิจารณ์ไม่ได้ว่า ท่านแม่ทัพไม่เฉลียวใจเลยหรือว่า  ท่านหมอหลัวจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาพิษแช่มือที่ทำให้ชุนโฉวตายทันทีนั้นหรือไม่  
         .................................
          (ส่วนมั่วเจี้ยงพระเอกรู้อยู่แล้วว่ายังมีผู้บงการตัวจริงที่ใหญ่กว่าชุนโฉวซุ่มอยู่ในหวู่เฟิ่งกู่)

          มั่วเจี้ยงเห็นแม่ทัพเซี่ยคลายความระวังลง  ต้องการเตือนนาง แต่นางไม่พูดด้วย เขาจึงจับมู่หลานขึ้นหลังม้า เพื่อพาไปคุยกันลำพังอีกครั้ง  เขาบอกว่ายังมีคนที่เหี้ยมโหดกว่าแอบซุ่มอยู่ในที่มืด  แม่ทัพเซี่ยชะล่าใจเกินไปที่นึกว่าคนร้ายตายแล้ว  มู่หลานไม่ฟัง   มั่วเจี้ยงจึงต้องบอกความจริงอีกอย่างว่า  เพื่อนของเขาเป็นคนปาควันพิษใส่มู่หลานเอง  เพื่อมู่หลานจะได้เชื่อว่าเขากำลังพูดความจริงอยู่ 
          เมื่อมู่หลานถามว่า ตกลงเขาเป็นใครกันแน่  เขาตอบว่า "ชาวโหยวหยานคนหนึ่งที่ที่หลงรักเจ้า"  เป็นครั้งแรกที่มั่วเจี้ยงใช้คำว่า "รัก" แทนคำว่า ชอบ  ( คนสมัยก่อนคงไม่บอกรักกันง่ายๆ  แค่พูดว่าชอบเฉยๆ )
          มู่หลานน้ำตาไหล  แต่เธอก็ยังย้ำว่า เธอจะไม่มีวันรักคนโหยวหยานเป็นอันขาด
          .................................         
          เมื่อมู่หลานกลับมาที่หอปักผ้า  ฝูหลิงดูจากอาการกระวนกระวายของมั่วเจี้ยงก็รู้ว่าเขาชอบมู่หลานไม่ได้ชอบเธอ  แต่เธอก็บอกมู่หลานตรงๆ ว่าตนชอบมั่วเจี้ยงนะ (ยังไม่รู้ว่ามั่วเจี้ยงเป็นคนโหยวหยาน)  มู่หลานเตือนฝูหลิงว่าอย่าไปชอบเขา  เพราะเขาไม่ใช่คนดี  หัวนอนปลายเท้าก็ไม่รู้   แต่ฝูหลิงยืนยันว่าเธอชอบมั่วเจี้ยงจริงๆ นี่นา  ชอบมากด้วย  และเธอก็จะแย่งมั่วเจี้ยงกับมู่หลานอย่างเปิดเผยด้วยนะ 
          ฝูหลิง ก็เป็นตัวแทนความรักอีกแบบหนึ่ง
          แม่ทัพเซียซี่เฉิน เป็นตัวแทนความรักแบบสุภาพบุรุษ  เขาเป็นคนเก็บความรู้สึก สีหน้านิ่งเฉยตลอดเรื่อง  เขาแอบนิยมชมชอบมู่หลานแต่ไม่เคยแสดงออกทั้งที่มีโอกาสใกล้ชิดมู่หลาน  เพราะรู้ว่ามู่หลานสนิทกับมั่วเจี้ยง  แม่ทัพเซี่ยปกป้องดูแลมู่หลานตลอดครึ่งปีที่รับผิดชอบทำผ้าปัก  และปกป้องมู่หลานตอนอยู่ในสนามรบด้วย  เขาไม่คิดจะใช้อำนาจและโอกาสแย่งชิงนางจากมั่วเจี้ยง เขาจะระงับอารมณ์ไม่อยู่แสดงอาการร้อนใจให้เห็นก็ตอนที่มู่หลานตกอยู่ในอันตรายเท่านั้น          
          แม่ทัพเซี่ยเคยเอาผ้าปักที่มู่หลานเคยปักเป็นรูปใบหน้าของเขาให้มู่หลานดูตอนจะตัดหัวมู่หลาน  เพื่อสื่อว่าเขาชื่นชมและเสียดายเธอ  แต่ต้องทำตามกฎของแคว้นเว่ย  และเขาก็เก็บผ้าปักผืนนั้นไว้กับตัวตลอดเวลาแม้กระทั่งในสนามรบ
          ชะตารักของคนเหล่านี้  ดูแล้วสะเทือนใจ  บางคนตายระหว่างสงคราม  บางคนถูกส่งไปแต่งงานเป็นทูตสันถวไมตรีเพื่อชาติ  บางคนตายเพราะปกป้องคนที่ตนรัก  ................................ 
สาระ  วัฒนธรรม ภาษา สำนวนจีน
แง่คิด
  " ถ้าเจ้าปฏิบัติต่อคนๆ หนึ่งเหมือนเขาเป็นศัตรู  ถ้างั้นเขาก็เป็นศัตรู  
   แต่ถ้าเจ้าปฏิบัติต่อคนๆ หนึ่งเหมือนมิตร  เขาก็จะเป็นมิตร"

เกร็ดภาษาจีน 
คำว่า 对待  แปลว่า การปฎิบัติต่อ (ผู้อื่น)  ท่าทีกระทำต่อ (ผู้อื่น)  
如果你像对待敌人一样去对待一个人,那他就是敌人。
          ถ้าเราทำกับเขาเหมือนเขาเป็นศัตรู  เขาย่อมเป็นศัตรูกับเรา
       ถ้าเราทำกับเขาเหมือนศัตรู  เขาก็จะเป็นศัตรู


เจาะลึก มู่หลาน จอมทัพหญิงกู้แผ่นดิน ซีรีย์จีน ตอน 1 花木兰传奇观后感 ตอนแรก (คลิกที่นี่)


 เนื้อเรื่องย่อ  สาระ วัฒนธรรม ภาษา สำนวนจีน

อ่าน มู่หลาน เจาะลึก ตอน 1 (คลิกที่นี่)

มู่หลาน  ตอน 4 (คลิกที่นี่)
มู่หลาน  ตอน 5 (คลิกที่นี่)

มู่หลาน  ตอน 6 (คลิกที่นี่)


มู่หลาน  ตอน 8 (คลิกที่นี่)



เพลงประกอบตอนจบ (คลิกที่นี่)
เพลงประกอบ 问月 (คลิกที่นี่) 

ซีรีย์เรื่องนี้แพร่ภาพในจีนปี 2013
และกำลังแพร่ภาพทางไทยพีบีเอส 2015  เสาร์และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. โดยประมาณ

ดูหนังเรื่องนี้ภาคภาษาจีนทางยูทูป ที่ลิงค์นี้ (คลิกที่นี่)


พากย์ไทย ที่คุณ naruto_multiThree อัพไว้ในยูทูปหลังไทยพีบีเอสออกอากาศ  (ดูได้ที่นี่) 




ดูทางยูทูป เสียงภาษาจีน มีซับอังกฤษ (ไม่ได้เรียงตอน) ไปที่ลิงค์นี้ (ที่นี่)
...............................    



ขอขอบคุณทุก ๆ คลิกและความคิดเห็นตั้งแต่ตอนที่ 1 -  ตอนปัจจุบัน  
Flag Counter @@@............