วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

มู่หลาน จอมทัพหญิงกู้แผ่นดิน เจาะสาระ 12 แม่ทัพ ผู้นำ ตามหลักพิชัยสงครามซุนวู



将者,智、信、仁、勇、严也。

(孙子兵法)

คุณสมบัติที่ แม่ทัพ ผู้นำ พึงมี 

สติปัญญา สัจจะ เมตตาธรรม
ความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว ความเข้มงวดและวินัย
(พิชัยสงครามซุนวู) 


古代汉语 ภาษาจีนโบราณ
ภูมิปัญญาจีนโบราณ - องค์ความรู้ที่นำมาปรับใช้กับการบริหารธุรกิจในยุคปัจจุบันได้ด้วย
บทความโดย สุวรรณา สนเที่ยง  张碧云
2015-11-19

           จุดประสงค์ในการเขียนเรื่อง "มู่หลาน จอมทัพหญิงกู้แผ่นดิน" เวอร์ชั่น 2013 หรือที่คนไทยเรียกกันว่า "มู่หลาน 2015" นี้  ก็เพราะเห็นว่าเรื่องนี้เป็นหนังที่มีหลายมิติ  ไม่ใช่แค่เน้นการรรักชาติ กตัญญู  หากแต่ยังมีสาระ  แฝงแง่คิด ปรัชญาชีวิตมากมาย  เป็นหนังแนวโบราณก็จริง  แต่แนวคิดไม่โบราณเลย  อยากบันทึกไว้เพื่อประโยชน์ในการศึกษาทั้งแง่การใช้ภาษาและอื่นๆ

            ดูหนังเรื่องมู่หลานฯ เวอร์ชั่นนี้แล้ว ก็อยากให้ประเทศต่างๆ เลิกทำสงครามแย่งชิงทรัพยากร หันมาเรียนรู้ซึ่งกันและกัน  ร่วมมือกัน  คนจะได้ทำมาหากินอย่างสงบ ร่ำรวยไปด้วยกัน

             การส่งองค์หญิงจากแคว้นหนึ่งไปแต่งงานกับอีกแคว้นเพื่อเชื่อมสัมพันธ์เกี่ยวดองเป็นญาติ  เป็นวิธีการโบราณ  แต่โลกปัจจุบันถือเป็นสัญลักษณ์ที่จะอยู่ด้วยกันอย่างสันติ


            เมื่อเรามาดูสถานการณ์โลกปัจจุบัน  เมื่อมีสงครามเกิดขึ้น  ผู้บริสุทธิ์ล้มตายจำนวนมาก  และยังเกิดผลกระทบไปทั่ว  กระทบความรู้สึกปลอดภัยในชีวิต กระทบเศรษฐกิจ  กระทบการท่องเที่ยว (รายได้ของแต่ละชาติ) ฯลฯ

            ในแง่ของการเรียนภาษา  หนังเรื่องนี้มีรูปประโยคการสนทนาภาษาจีนที่เข้าใจได้ไม่ยาก และภาษาที่ซับซ้อนเข้าใจยาก (เหมาะกับคนเรียนภาษาจีนขั้นสูงที่อยากพัฒนาทักษะการฟัง ความเข้าใจ การแปล ฯลฯ  อันนี้ต้องยกความดีให้กับผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ )  มีการใช้คำเชื่อม  คำย้อนถาม ฯลฯ   มีสำนวนจีนโบราณสอนใจอมตะ  ลึกซึ้ง  มีการอุปมาให้เห็นชัด  มีภาษาชาวบ้านที่พูดตรงๆ  กับมีคำพูดที่แฝงนัยความหมายที่ต้องอาศัยการตีความ

            แนวการเขียนของผู้เขียนก็ยังคงอยู่ในโหมดเดิม คือ เรื่องจีนๆ ภาษาจีน วัฒนธรรมจีน การศึกษา ฯลฯ  เพื่อความ "เข้าใจจีน" ซึ่งเป็นกระแสโลกตอนนี้

            การเขียนเรื่อง "มู่หลาน" ก็ยังอยู่ในโหมดนี้  เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบเป็นการเล่าหนังแทนการเขียนแนววิชาการ  คนที่เคยเรียนกับเหล่าซือ จะรู้ว่าเหล่าซือชอบสอนนอกตำราเล่าหนังจีนอมตะหรือตำนานจีนในห้องเรียนอยู่เสมอ  เพราะถือหลักว่า  การเรียนภาษาต้องควบคู่ไปกับการเรียนรู้ด้านวัฒนธรรม อารยธรรม ปรัชญา วิธีคิด  จึงจะเข้าถึงจิตวิญญาณของภาษานั้นๆ  จึงจะ "เข้าใจจีน" และคุยกับคนภาษานั้นได้ "รู้เรื่อง"  การเล่าหนัง เล่านิทาน ยังเป็นการทำให้จำแม่นกว่าการอ่านตำราด้วย
  
           ในด้านเนื้อหา  หนังเรื่องนี้นอกจากจะมีการสอดแทรกให้ผู้ชมเห็นของดีจีน - ภูมิปัญญาจีนมาแต่โบราณ วัฒนธรรม วิธีคิดแบบจีนแล้ว  ผู้เขียนมองว่าหนังเรื่องนี้ยังสะท้อนการเมืองความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ   นโยบายต่างประเทศ  นโยบายพัฒนาประเทศ  ยุทธศาสตร์ยุทธวิธีในการสู้รบ  ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีมาแต่โบราณ  แต่ก็ยังไม่ล้าสมัยในโลกปัจจุบัน ( ข้อสังเกตส่วนตัวผู้เขียน - คำพูดหลายๆ คำที่ตัวละครพูด  เราก็ได้ยินผู้นำจีนพูดคล้ายๆ กันในแนวเดียวกันด้วย )    
           
             หลังจากที่เขียนเรื่อง เจาะสาระ "มู่หลานฯ " มา 12 ตอน  ก็มีผู้อ่านส่งกำลังใจมาให้ทั้งหน้าไมค์และหลังไมค์  บางท่านบอกว่าติดตามอ่าน คอยคลิกเข้ามาดูบ่อยๆ ว่าอัพตอนใหม่แล้วหรือยัง  บางท่านบอกว่าดูหนังแล้วมาอ่าน  ทำให้สนุกออกรสยิ่งขึ้น เข้าใจมากขึ้น  แตกความคิดและไปค้นหาความรู้เรื่องอื่นๆ เพิ่มได้อีกหลายแง่มุม

             ส่วนผู้อ่านที่ขอมา อยากให้หาเบื้องหลังการถ่ายทำมาให้ดูเพิ่มนั้น  ลองหาดูแล้วแต่ได้ไม่มาก  เนื่องจากซีรีย์เรื่องนี้ถ่ายทำตั้งแต่ปี 2011  (ใช้เวลาถ่ายทำประมาณ 1 ปี)  แพร่ภาพในจีนเมื่อสองปีก่อน 2013  ข้อมูลบางส่วนอาจถูกลบออกไปจากเว็บแล้ว ( ตอนนี้ได้นำภาพส่วนที่พอหาได้พ่วงไว้ตอนท้ายเรื่องนี้  ถ้าหาได้อีกก็จะทยอยเพิ่มเติมในโพสต์ต่อไป )

            ส่วนที่เป็นฉากและเรื่องราวการสู้รบในภาคหลัง (ต่อจากภาคปักผ้า) นี้  ผู้เขียนพยายามจะตัดย่อให้สั้นที่สุด  เพราะซีรีย์ใกล้จะจบแล้ว  เขียนไม่ทัน อีกอย่างก็คือผู้เขียนไม่ถนัดเรื่องนี้่ และไม่ชอบสงครามด้วย ( บางฉากบางตอนก็ไม่ดูหรือดูผ่านๆ )  
    
            ตอนที่แล้วเขียนถึงเรื่องยุทธวิธีในการทำศึก (ยกแรก ตอนนี้ในหนังไปถึงยกที่สองแล้ว ) ระหว่างแม่ทัพองค์ชายตัวหลุนกับแม่ทัพเซี่ยชี่เฉินที่มีมู่หลานเคียงบ่าเคียงไหล่ ( ซึ่งเป็นการรบสองรุมหนึ่ง  แถมยังเป็นสองคนที่รู้จักนิสัยส่วนตัว รู้จุดอ่อนของแม่ทัพตัวหลุนเป็นอย่างดีด้วย ) ตัวหลุนจึงแพ้ศึกครั้งแรกในชีวิต  อย่างนี้ในสำนวนจีนก็ใช้คำว่า  知己知彼、百战百胜。( รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ) ได้เหมือนกัน

            ต่อมา  ยุทธการที่เมืองเซิ่งเล่อ  ตัวหลุนมีโอกาสฆ่ามูหลาน แต่เขาก็ฆ่าไม่ลง  จึงแกล้งทำเป็นฟันดาบลงไป  และปล่อยให้เธอรอดชีวิตกลับไป  แถมยังเสี่ยงชีวิตขี่ม้าเอายาแก้พิษธนูมาให้มู่หลานถึงค่ายทัพเว่ย ( คนรักแท้แบบนี้ในโลกนี้ยังหาได้อีกมั้ย )

            และมีอีกตอนหนึ่ง มู่หลานมีโอกาสฆ่าตัวหลุน  แต่เธอก็ฆ่าเขาไม่ลงเช่นกัน  บอกให้เขารีบหนีไป แม่ทัพเซี่ยกำลังจะมาถึง

            หลังจากนั้น แม่ทัพเซี่ยถามมู่หลานว่า " ได้ยินว่าตอนนั้นเจ้ามีโอกาสฆ่าเขา  แต่ทำไมเจ้าไม่ทำ  ข้าไม่อยากเห็นเจ้าผิดพลาดตามรอยของตัวหลุน " (หมายถึงแพ้เพราะใจรักที่ผูกพัน ใจอ่อนต่อศัตรู)

            ผู้กำกับกดดันจิตใจคนดูจริงๆ เลย  แม่ทัพเซี่ย บุคคลในอุดมคติก็ช่างใจร้าย แต่ก็พยายามเข้าใจว่าในเหตุการณ์จริงความพ่ายแพ้กำหนดชะตากรรมของชาติตนเอง


           ในตอนหนึ่งของหนัง ได้มีการโยงถึงบทหนึ่งในตำราพิชัยสงครามซุนวูที่เกี่ยวกับคุณสมบัติของแม่ทัพ หรือผู้นำ ผู้เขียนจึงไปหาข้อความภาษาจีนพิชัยสงครามเฉพาะบทนี้ และถอดความภาษาไทยคร่าวๆ มาฝาก ( แต่ไม่ดูเรื่องอื่นในตำราพิชัยสงครามเลย เพราะไม่ถนัด )


     สองตัวละครเอกในเรื่องนี้ ต่างก็มีคุณสมบัติเป็นแม่ทัพที่สุดยอดทั้งคู่   
     สองคนนี้ต่างก็ชื่นชมอีกฝ่าย แต่ทั้งคู่ไม่มีโอกาสสู้กันตัวต่อตัวในสนามรบจริง
     ซึ่งต่อมา ตัวหลุน ได้พูดถึง แม่ทัพเซียชี่เฉินว่า "เป็นสหายและคู่ต่อสู้ที่ดีที่สุดของข้า"

...................................................
     
            จากบทความที่แล้ว (เจาะสาระตอนที่ 12 ของผู้เขียน)  เรื่องเกี่ยวกับหลักการทำศึกตามตำราพิชัยสงครามซุนวู  มีผู้อ่านท่านหนึ่งกรุณาแสดงความเห็นมาไว้น่าสนใจมาก  ได้ขออนุญาตเจ้าของความเห็นแล้ว  จึงนำมาโพสต์ไว้ในบทความนี้ และขอขอบคุณมาในโอกาสนี้ด้วย        
     
           ผู้อ่านคุณ Tapootum Tapootum  เขียนว่า

          " ดูเรื่องนี้แล้วต่อยอดไปในหลายๆเรื่อง ตอนนี้ก็ไปหาอ่านพิชัยสงครามเพราะสงสัยตอนทหารได้รับบาดเจ็บแล้วท่องว่ามี อย่างที่ต้องใช้ในการทำศึก ดูแล้วก็สงสัยว่าบางข้อมาเกี่ยวอะไรด้วย พอได้รู้ข้อมูลก็รู้สึกทึ่งมากๆ กับภูมิความรู้ของคนยุคก่อนๆ ค่ะ "

           " จำไม่ได้ว่าตอนที่เท่าไหร่ รู้แต่ว่าตอนที่เสี่ยวซันจื่อทำแผลให้ทหารบาดเจ็บ ระหว่างทำแผลคงเจ็บมากเลยให้กัดผ้า แต่คงเอาไม่อยู่เลยท่องอะไรออกมามั่วๆ เป็นคนที่รบไม่เก่งแต่ชอบอ่านพิชัยสงครามน่ะค่ะ  แล้วเสี่ยวซันจื่อก็ช่วยท่องด้วย  เหมือนหมอเบนความสนใจเพื่อช่วยไม่ให้คนไข้เจ็บมากน่ะค่ะ  เค้าท่องห้าสิ่งที่ต้องประเมินเมื่อทำสงคราม  เพราะสงครามแพ้ - ชนะเป็นสิ่งสำคัญของบ้านเมือง  เค้าบอกว่าต้องคำนึงถึง

      ---...ธรรมในการปกครองให้ประชาชนรู้สึกรวมใจเป็นหนึ่งเดียวในการต่อสู้เพื่อชาติ  

      ---   ฟ้า สภาพดินฟ้าอากาศฤดูกาล

      ---   ดิน สภาพภูมิประเทศพื้นที่ๆ จะเข้าไปทำศึก

      ---   แม่ทัพ ถ้าผู้นำไม่ดี ไม่เด็ดเดี่ยว ไม่เมตตา สติปัญญาจำกัด ก็ยากจะรบชนะ

      ---   สุดท้ายคือระเบียบวินัย  ถ้าไม่มีการจัดการที่ดีการส่งเสบียง กำลังหนุน หรือการให้คุณให้โทษในกองทัพ ถ้าไม่คำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ ก็จะพ่ายศึกในที่สุดค่ะ "



          ความเห็นคุณ Tapootum Tapootum เพิ่มเติม  " นี่แค่ ตำราพิชัยสงครามของซุนวูบทแรกเองจากที่เขียนไว้ 13 บท  พออ่านไปเรื่อยๆ เค้าบอกว่าเป็นความรู้ล้ำค่าของโลก  แปลไปหลายภาษาทั่วโลก  ไร้ข้อโต้แย้ง  ก็เลยทึ่งมากๆ ตรงนี้แหละค่ะ ว่าทำไมคนสมัยก่อนถึงตกตะกอนทางความคิดแล้วเขียนมาเป็นคัมภีร์ให้คนยุคนี้ได้ศึกษามาหลายยุคหลายสมัย  มันดีที่สุดเลยที่ได้เรียนรู้ค่ะ  สนุกมากเลยค่ะ " 
                     
                                  .............................................................................................

            ลักษณะคนที่ขาดภาวะความเป็นผู้นำ  แม่ทัพที่ขาดสติปัญญา  หูเบา  ขาดความสามารถในการแยกแยะปัญหา  ขาดการมองการณ์ไกล ยังได้สะท้อนผ่าน "ท่านข่านต้าถาน" และ  "องค์ชายหวูถี" ในหนังเรื่องนี้


            ตอนที่แล้วผู้เขียนสรุปค่อนข้างรวบรัด   เล่าข้ามสาระที่น่าสนใจส่วนหนึ่งไป  บทความนี้จึงอยากย้อนกลับไปพูดถึงอีกครั้ง

            (ก่อนจะท่านข่านจะประกาศศึก) ฉากที่องค์ชายตัวหลุนกลับถึงโหยวหยาน แล้วแสดงความเห็นคัดค้านการเปิดศึกกับแคว้นเว่ย  
             เขาพูดโต้ตอบกับท่านข่านและจินฉานจื่อ (มหาอำมาตย์แห่งแคว้นโหยวหยาน)

             จินฉานจื่อต้องการให้รบ  ท่านข่านก็บอกชัดเจนว่า  เป้าหมายของการทำสงครามคือไปยึดทุ่งหญ้าและแหล่งน้ำอันอุดมสมบูรณ์ที่แถบจงหยวน (ซึ่งรวมแคว้นเว่ยอยู่ด้วย) เพื่อทางรอดของโหยวหยานและการขยายอิทธิพลของโหยวหยาน 
             ( วิสัยทัศน์หรือนโยบายของท่านข่านคือ  สร้างความมั่งคั่งด้วยการใช้กำลังทหารไปตีและยึดเอาทรัพยากรของชาติอื่น)
          
             ตัวหลุนพยายามพูดโน้มน้าวให้พ่อเห็นด้วยกับการไม่รบ ว่า 
             " ทุกครั้งที่เราทำสงคราม ชิงช่วงทรัพย์สินได้มากมาย  
               แต่ทุกครั้งที่รบก็ต้องสูญเสียชีวิตคนมากมาย  
               องค์หญิงแคว้นเว่ยแต่งมาเชื่อมสัมพันธ์เป็นเรื่องดี  
               แคว้นเว่ยอุดมสมบูรณ์   ไพร่พลเข้มแข็ง  
               แต่สิ่งที่ลูกหวาดหวั่น  ไม่ใช่ทหารและม้าศึกของแคว้นเว่ย  
               หากแต่เป็นอารยธรรมของชาวจงหยวน ( 并不是魏国的兵马,而是中原的文明) * ตัวหลุนพูดถึงศึกษาอารยธรรม   ไม่ใช่วัฒนธรรม 
             ( วิสัยทัศน์หรือนโยบายของตัวหลุนคือ สร้างความมั่งคั่งจากการใช้สติปัญญา ศึกษา เรียนรู้ข้อดีของชาติอื่นและความร่วมมือ)     
  
             ท่านข่านพูดว่า  "อารยธรรมที่เจ้าพูดหมายถึงผ้าไหมเครื่องปั้นเครื่องเคลือบหรือ หากเรายึดแคว้นเว่ยได้ ของพวกนั้นก็จะตกเป็นของเรา  อารยธรรมมีอะไรน่ากลัว ? "

              ตัวหลุนตอบว่า 
              อารยธรรมไม่ใช่ผ้าไหมเครื่องปั้นเครื่องเคลือบ  แต่เป็นความรู้ที่คิดค้นสิ่งเหล่านั้นขึ้นมาสั่งสมสืบต่อกันเป็นเวลานาน  นี่แหละคืออานุภาพของอารยธรรม ( 绵延千年的积淀,这就是文明的力量。)
              ตัวหลุนพูดต่อว่า อารยธรรมไม่เพียงสร้างความมั่งคั่ง ยังทำให้ประเทศนั้นแผ่อิทธิพลไปได้ไกลอีกด้วย  อย่างสกุลทั่วป๋าแห่งเซียนเปย  เดิมเป็นชนเผ่าเร่ร่อนเลี้ยงสัตว์บนทุ่งหญ้า  แต่เพราะผสานเข้ากับอารยธรรมของจงหยวน (หมายถึงเรียนรู้จากชาวจีนฮั่น) สถาปนาแคว้นเว่ย  จนกลายเป็นแคว้น (ประเทศ) ที่เข้มแข็ง  นี่คืออานุภาพของอารยธรรมจงหยวน (หมายถึงอารยธรรมจีนฮั่น) ทำไมเราไม่เลิกคิดทำสงคราม หันไปเรียนรู้อารยธรรมจงหยวน  เพื่อให้โหยวหยานเราเจริญเข้มแข็งอย่างแท้จริงล่ะ

               จินฉานจื่อโต้ว่า  ที่สกุลทั่วป๋า (วงศ์ฮ่องเต้แคว้นเว่ย) ได้ครองแผ่นดินวันนี้  ก็ล้วนแต่มาจากการทำสงครามทั้งนั้น
  
          ตัวหลุนโต้ว่า แต่ความเข้มแข็งและความเจริญ (ของประเทศ) นั้นไม่ควรพึ่งพาการทำสงคราม (而强盛不能依靠战争)

          จินฉานจื่อพูดว่า ความแค้นโหยวหยานกับชาวเว่ย สั่งสมมาหลายสิบปี  มีคนตายด้วยน้ำมือชาวเว่ยมากมาย

          ตัวหลุนพูดว่า เราจะจมอยู่กับอดีต จนไม่มองอนาคตไม่ได้
                .....................................................  

เกร็ดภาษาจีนจากเหล่าซือสุวรรณา 中文知识点滴
汉语近义词  คำศัพท์จีนชวนสับสน 
ความแตกต่างระหว่างคำว่า  文明 กับ 文化
文明 แปลว่า อารยธรรม  ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Civilization 
文化 แปลว่า วัฒนธรรม  ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Culture

ตามที่ผู้เขียนเข้าใจ
อารยธรรม 文明  หมายถึงองค์ความรู้ ที่มนุษย์พัฒนาจากการล่าสัตว์ ฆ่าสัตว์เป็นอาหาร มาเป็นการรู้จักเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ ทอผ้า ทำกระดาษ  ผลิตของใช้ ฯลฯ เป็นการพัฒนาต่อยอดจากวัฒนธรรม
วัฒนธรรม  文化 หมายถึง ความเชื่อ ภาษา การแต่งกาย วิถีชีวิต แนวคิด ขนมธรรมเนียม  ศิลปะ การกินอยู่ ฯลฯ ที่ทำให้มนุษย์มีความแตกต่างกัน

วัฒนธรรมยังรวมถึงความเคยชินด้วย  ความเคยชินบางอย่างอาจจะไม่ดี ไม่ควรเลียนแบบก็ได้

ที่หยิบยกขึ้นมาเป็นตัวอย่าง  ก็เพื่อให้ผู้เรียนสามารถแยกแยะความแตกต่างของคำสองคำนี้ได้ แม้จะมีส่วนเกี่ยวโยงกัน แต่ความหมายต่างกัน

ในภาษาจีนมีตัว 文 เป็นรากศัพท์  ในภาษาไทยมีคำว่า "ธรรม" เป็นตัวร่วม  แต่ในอังกฤษแยกเป็นคนละคำกัน  



ดูคำจีนสับสนเพิ่มเติม คลิกที่นี่


เข้าใจจีน เรียนภาษาจีน อารยธรรม ปรัชญาจีน 


หนังเรื่องนี้กำลังแพร่ภาพทางไทยพีบีเอส ทุกเสาร์-อาทิตย์ 20.15 โดยประมาณ

ดูหนังเรื่องนี้ภาคภาษาจีนทางยูทูป ที่ลิงค์นี้ (คลิกที่นี่)

ภาคภาษาไทย ดูได้ที่ ไทยพีบีเอส (ย้อนหลัง)

และ พากย์ไทย ที่คุณ naruto_multiThree อัพไว้ในยูทูปหลังหนังออกอากาศ (คลิกที่นี่)

เพลง 问月 (ถามจันทร์) เพลงเอกที่ใช้ตอนนางเอกเต้นระบำบนทุ่งหญ้า (คลิกที่นี่)
....................................
มุมผ่อนคลาย
ภาพเก็บตกจากกองถ่ายเรื่องมู่หลานมาฝากเล็กน้อย
ภาพขำๆ ของคนแสดงเป็นแม่ทัพเซี่ย กับ ชุดเกราะที่หนักประมาณ 7 กิโลกรัม
ขอบคุณภาพจาก weibo ของ Ai Dong  艾东微博  ผู้แสดงเป็นแม่ทัพเซี่ยชี่เฉิน













ขอบคุณทุกคลิกทุกความคิดเห็นตั้งแต่ตอนแรก - ตอนปัจจุบัน
Flag Counter



11 ความคิดเห็น:

  1. วันนี้แวะมาสวัสดี ดีใจจังค่ะ ได้อ่านตอนใหม่ ชอบค่ะอ่านแล้วมีความรู้เพิ่ม (จะดีถ้าทำตามได้) ขอบคุณเหล่าซืองามๆ ข้าขอคารวะ ให้กำลังใจ (ขอกอดสองที) แฮะ มีความเห็นว่า เหล่าซือเล่าย่อๆ แต่วิจารณ์ ให้ความรู้ หรืออาจจะตั้งคำถาม ให้ไปต่อยอดก็ดีนะค่ะ ส่งแรงใจไปให้บ่อยๆ เยอะๆ วันหนึ่งหลายๆครั้งค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. สวัสดีค่ะคุณ Jeng Piyamanage ดูแล้วมีหลายอย่างที่เอามาคิดและปรับใช้กับชีวิตปัจจุบันได้ค่ะ
      ภาคสงครามสงสัยต้องย่อกว่านี้อีก (จะได้ไล่ทันหนังที่ออกอากาศอยู่)
      ให้ตั้งคำถามหรือคะ ไม่มีเสื้อยืดจะแจกนะสิคะ
      ขอบคุณสำหรับแรงใจนะคะ

      ลบ
  2. มาขอบคุณอีกครั้งค่ะ ท่ี่เหล่าซือเพิ่มมุมผ่อนคลาย ถูกใจ ขอบคุณจากใจจริง ๆ ค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. หนังถึงตอนเริ่มห้ำหั่นกัน แม่ทัพทั้งสองโดนกดดันจากเจ้านายให้เผชิญหน้ากัน
      พระเอกชีช้ำเหลือเกิน รักรันทด โดนพ่อด่า โดนพี่เลื่อยขาเก้าอี้
      แม่ทัพเซี่ยก็โดนฮ่องเต้ด่า โดนเขวี้ยงของใส่หน้า
      เลยต้องมี "มุมผ่อนคลาย" สักหน่อย กลัวคนอ่านเครียด ฮ่าๆๆ

      ลบ
    2. สวัสดีค่ะ เหล่าซือ เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาตอนที่43-44 สงสารอู๋ถีมาก จินฉานจื่อสุดยอดร้ายได้ใจจริงๆ เหล่าซือคะคนจีนมีความเชื่อเรื่องคนตายตาไม่ปิด(ไม่หลับ)อย่างไร ตอบแล้วไม่ได้เสื้อนะจะบอกให้ ฮะ ฮะ

      ลบ
    3. ใช่ค่ะ สงสารหวูถีมาก เขาไม่ใช่คนเลว ยังเป็นคนรักแท้อีกด้วย หวูถีไม่ใช่คนแรกที่ถูกจัดการ จินฉานจื่อยังร้ายกว่านั้นอีก
      คนจีนมีความเชื่อเรื่องตายแล้วตาไม่หลับว่า
      (1) คนตายยังมีเรื่องที่เป็นห่วงมากๆ ยังทิ้งความเป็นห่วงนั้นไปสู่สุขคติไม่ได้
      (2) คนตายจะต้องได้รับความไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง หรือมีอะไรที่แค้นใจสุดๆ หรือ ไม่ยอมสุดๆ เสียใจสุดๆ จึงยังไปสู่สุขคติไม่ได้
      ในหนังเรื่องนี้หมายถึงหวู่ถีแค้นใจที่ถูกคนที่ตัวเองวางใจเคารพนับถือมาทำกับตัวเองอย่างนี้ (ตอนหลังพระเอกช่วยทำให้ตาของหวูถีหลับได้)
      ไว้เหล่าซือจะเขียนถึงสำนวนจีนคำนี้ ( 死不瞑目 ตายตาไม่หลับ ) อีกรอบในบทความต่อๆ ไปนะคะ
      ตอบแล้วนะ ไม่ได้เสื้อก็ต้องยอมค่ะ ทำไงได้ล่ะ
      เวลาโพสต์เรื่องใหม่ เหล่าซือมักจะไปบอกไว้ในเพจนี้ด้วยนะคะ แต่บางทีก็ไม่ได้บอกค่ะ https://www.facebook.com/SuwannaFutureC/?ref=hl

      ลบ
  3. สวัสดีค่ะเหล่าซือ ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำตอบ ถ้าตนเองมีโอกาสไปแถวFuture จะไปสวัสดีเหล่าซือตัวเป็นๆนะค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. สวัสดีค่ะคุณ Jeng
      เหล่าซือไม่ได้อยู่แถว Future นะคะ อยู่ฝั่งธนฯ ใกล้กับเดอะมอลล์-ท่าพระค่ะ ใกล้บีทีเอสตลาดพลู แต่ใช้ชื่อว่า "ฟิวเจอร์ซี"
      C ในที่นี้ ย่อมาจาก Chinese ที่หมายถึงภาษาจีนค่ะ
      ถ้าจะมาเมื่อไหร่ รบกวนแจ้งมาล่วงหน้านะคะ จะได้แต่งตัว . โรยผักชีก่อน เอ้ย.......ไม่ใช่..... เผลอ....... กลัวเห็นตัวจริงแล้วรับไม่ได้ค่ะ
      ส่วนมากจะอยู่เฉพาะเสาร์ - อาทิตย์ เพราะเปิดสอนเฉพาะเสาร์และอาทิตย์เท่านั้นค่ะ วันธรรมดาปิดค่ะ
      (นึกว่าตอบคำถามแล้วจะมาส่งเสื้อซักอีก)

      ลบ
  4. หลังจากเขียนข้อความแล้ว เข้าไปดูในfbของเหล่าซือจึงรู้ว่าไม่ใช่แถวFuture หน้าแตกเลย(แฮะ แฮะ)จึงกลับเข้ามาจะเขียนเพิ่ม ไม่ทันเหล่าซือตอบซะแล้ว ฮะฮะ และได้อ่านที่คุณtapootumกับเหล่าซือเขียนคุยกันอ่านแล้วมีความรู้สึก ความเห็นเหมือนกันเลย ถูกใจมากกกกกๆ ได้พัฒนาสมองเยอะเลย ขอบคุณทั้งสองท่านมากๆค่ะ คุยกันอีกนะจะคอยอ่าน

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. หน้าแตกไม่เป็นไร ซ่อมได้ค่ะ คริคริ เหล่าซือเคยแตกมาเยอะแล้ว
      คุณ tapootum ท่านแสดงความเห็นไว้ที่เพจของเหล่าซือ เมื่อ วันที่ 4 พฤศจิกายน เจาะสาระ (10)
      หนูลองเข้าไปดูที่ลิงค์นี้นะคะ https://www.facebook.com/SuwannaFutureC/
      เลื่อนลงไปโพสต์วันที่ 4 พฤศจิกาค่ะ ข้อความที่เขียนคุยกันส่วนใหญ่จะซ่อนอยู่ในส่วน "ตอบกลับ" ค่ะ

      ลบ
    2. ยังไม่ได้เขียนตอนใหม่เลย ไม่รู้คุณ Jeng คลิกเข้ามาดูบ้างหรือเปล่า อาทิตย์หน้าคงจะหาเวลามาเขียนต่อได้แล้วค่ะ
      หนังกำลังน่าติดตามมาก ใกล้จะจบแล้ว เขียนไม่ทันแล้วค่ะ
      แต่ก็จะเขียนไปเรื่อยๆ จนถึงเรื่องตอนจบ เก็บเป็นบันทึกข้อคิดที่ได้จากการดูหนังของตัวเองค่ะ

      ลบ