วันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

เพลง《尘缘》ขับร้องใหม่โดย หลี่เจี้ยน ในรายการประกวดร้องเพลงช่องทีวีหูหนาน

เพลง 《尘缘》ขับร้องโดย หลี่เจี้ยน ผู้เข้าแข่งขันการประกวดร้องเพลง รายการ 《我是歌手》ช่อง ทีวีหูหนาน เมื่อปี 2015 

李建 ทำให้เพลงนี้ซึ่งเป็นเพลงเก่าประกอบภาพยนต์ยุคปี 80 ดังเป็นพลุชั่วข้ามคืนเดียว
นักประพันธ์เพลงรุนนั้นจะพิถีพิถันในการประพันธ์เนื้อร้องมาก

《尘缘》是李健在《我是歌手》演唱的歌曲,他把这首老歌一夜爆红,成了现在最火的歌。
是上个世纪八十年代 (ทศวรรษที่ 8 แห่งศตวรรษที่ 19) 电视剧《八月桂花香》的主题曲。

เนื้อเพลง 歌词

《尘缘》เพลง เฉินเหยี๋ยน

作词:娃娃
作曲:徐日勤

尘缘如梦
几番起伏总不平
到如今都成烟云

情也成空
宛如挥手袖底风
幽幽一缕香
飘在深深旧梦中

繁花落尽
一身憔悴在风里
回头是无晴也无雨

明月小楼
孤独无人诉情衷
人间有我残梦未醒

漫漫长路 起伏不能由我
人海漂泊 尝尽人情淡薄

热情热心 换冷淡冷漠
任多少深情独向寂寞

人随风过
自在花开花又落
不管世间沧桑如何

一城风絮
满腹相思都沉默
只有桂花香暗飘过

感谢:
https://www.youtube.com/channel/UC1pHFqCMAIHP8gr4lYGtNLA


<iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/gs87KkEgNiQ" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


..๑๑๑

วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2559

เพลง 朋友 (Friend - เพื่อน) ขับร้องโดย 周华健



        สิ่งที่ทำให้คนเรามีความสุขในชีวิต ก็คือ เพื่อน  
        
        ชีวิตที่ขาดเพื่อน ก็เหมือนชีวิตที่ขาดน้ำ 
        
        "เพื่อน"  ซื้อและเช่ากันไม่ได้  ต้องให้และได้มาด้วย "ใจ"   

        สิ่งสำคัญยิ่งกว่าการปลูกฝังเรื่องวินัย เรื่องมุมานะ ความสามารถ  นั่นคือปลูกฝัง "คน" ให้รักเพื่อนมนุษย์ด้วย 
        สังคมไหน (แม้กระทั่งในโรงเรียนลูก) ถ้ามุ่งส่งเสริมให้เก่งเป็นที่ 1  เห็นเพื่อนเป็นคู่แข่ง  ย่อมไม่มีใครคบเป็นเพื่อนจริงๆ  ที่ห้อมล้อมอยู่อาจเป็นแค่พวกที่จะมาหาประโยชน์เท่านั้น  ประสบความสำเร็จมากมายแต่ในใจกลับอ้างว้าง 

         นึกถึงเพลงจีนซึ้งๆ เพลงนี้  ที่ชาวจีนนิยมเอาไปร้องกันในโอกาสที่เพื่อนฝูงต้องแยกย้ายกันไป

      นั่นคือเพลง 朋友 (Friend - เพื่อน) เวอร์ชั่นภาษาจีน ที่ขับร้องโดย 周华健 - 朋友 (Emil Chau - Peng You)
      และมิวสิควีดีโอที่ทำให้เราเห็นมิตรภาพระหว่างเพื่อน  นำมาเก็บไว้ในบล็อก 
      เนื้อหาเพลงดี อยากให้เพื่อนๆ ได้ฟังและอ่าน
      ............
       เนื้อร้องมีประโยคหนึ่งว่า 一声朋友你会懂  หมายความว่า  
       แค่ "เพื่อน" คำเดียวคุณก็เข้าใจได้ว่ามันหมายถึงอะไร
       .....
       有过泪  有过错....  เคยหลั่งน้ำตา เคยผิดพลาด .... (เพื่อนคือผู่ที่เคียงข้างเสมอในยามที่ทุกข์ หรือ ผิดพลาด)
.......

朋友 歌词   演唱:周华健

这些年 一个人 
风也过 雨也走 
有过泪 有过错 
还记得坚持甚麽

真爱过 才会懂 
会寂寞 会回首 
终有梦 终有你 在心中 

朋友 一生一起走 
那些日子 不再有 
一句话 一辈子 
一生情 一杯酒 

朋友 不曾孤单过 
一声朋友 你会懂 
还有伤 还有痛 

还要走 还有我

       เวอร์ชั่นแรกมีภาพ  ส่วนเวอร์ชั่นที่สอง จะมีคำแปลเนื้อเพลง 朋友 (Friend - เพื่อน) เป็นภาษาอังกฤษค่ะ
       
      ขอบคุณลิงก์จากยูทูป 
      http://www.youtube.com/watch?v=6lbPgfKK7m4  อัพโหลดโดย RockRecordsTaipei·

      http://www.youtube.com/watch?v=yxaA94HGo9A  

     周华健 - 朋友 (Emil Chau - Peng You)  อัพโหลดโดย  ThatOneAsianChick



 เวอร์ชั่นมีคำแปลภาษาอังกฤษ 

.............................................................
สุวรรณา สนเที่ยง 张碧云

www.futurec-cn.com
facebook: Suwanna Future C


เรื่องนี้ผู้เขียนเคยโพสต์ครั้งแรกที่ OKnation Blog วันที่ 7 มีนาคม 2556 (2013)
 http://www.oknation.net/blog/chineseclub/2013/03/07/entry-1


วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2559

เพลง เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ 上海滩 ฉบับหลิวเต๋อฮว๋า 刘德华 และฉบับฟรานซิสยิบ



เพลเอกประกอบซีรีย์จีน เรื่อง เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้เวอร์ชั่น 1980
1980 版 “上海滩” 主题曲原声版

ขับร้องโดย ฟรานซิสยิป (叶丽仪 / 葉麗儀)ร้องเป็นภาษากวางตุ้ง
ฟรานซิสยิป เกิดที่ฮ่องกง แต่เป็นลูกหลานจีนชาวฮากกา 客家人
ชาวจีนฮากกา จะมีตระกูลแซ่ 叶(葉)ค่อนข้างมาก
ภาษาจีนฮากกาออกเสียงว่า แซ่ยับ 


 

ขอบคุณวีดีโอจากยูทูป
murmur liu
Link : https://www.youtube.com/watch?v=4tNg5N6hi1k


............

เรื่องนี้ ผู้เขียนโพสต์เคยเขียนและครั้งแรกที่ โอเคเนชั่นบล็อก
เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2555 (2012)
ชื่อเรื่อง  เพลง เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ 上海滩 ฉบับหลิวเต๋อฮว๋า 刘德华 และฉบับฟรานซิสยิบ
Post by เหล่าซือสุวรรณา


เพลง "เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ 上海滩" ฉบับหลิวเต๋อฮว๋า 刘德华 


เพลงประกอบหนังฮ่องกงทีวีซี่รี่เรื่องดัง "เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ 上海滩" ฉบับที่นำแสดงโดยโจวเหยินฟะ 周润发 และ จ้าวหย่าจือ 赵雅芝 กลายเป็นเพลงจีนอมตะที่ติดหูคนทั่วโลก  จนมีนักร้องชื่อดังนำมาขับร้องใหม่หลายต่อหลายคน  มี MV ประกอบหลายชุด

ผู้เขียนเลือกที่จะเอา MV ฉบับที่ขับร้องโดย หลิวเต๋อฮว๋า ( 刘德华 / 劉德華 Andy Lau )ดาราและนักร้องรุ่นใหญ่มาลงเก็บไว้ในกล่องความทรงจำ “โอเคเนชั่นบล็อก” นี้ และที่ขับร้องโดย ฟรานซิสยิบ(叶丽仪 / 葉麗儀) เพราะรู้สึกว่าสองเวอร์ชั่นนี้ดูจะคลาสสิคสุด

เวอร์ชั่นนี้ขับร้องเป็นภาษากวางตุ้ง โดย หลิวเต๋อฮว๋า  เพราะมาก


浪奔 浪流 萬里滔滔江水永不休     
淘盡了 世間事 混作滔滔一片潮流

是喜 是愁 浪裡分不清歡笑悲憂     
成功 失敗 浪裡看不出有未有

愛你恨你 問君知否 似大江一發不收  
轉千灣 轉千灘 亦未平復此中爭鬥

又有喜 又有愁 就算分不清歡笑悲憂   
仍願翻 百千浪 在我心中起伏夠

仍願翻 百千浪 在我心中起伏夠  
.......... 
เวอร์ชั่น จากฟรานซิสยิบ
ขอบคุณ http://www.youtube.com/watch?v=4uBkWv8L0eg&feature=related


หลิวเต๋อฮว๋า ร้องเพลงนี้บนเวที
ขอบคุณ  http://www.youtube.com/watch?v=aYG_Fy7T1h4&feature=player_embedded#!



วันจันทร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2559

จากเจงกิสข่าน ถึง ก๊วยเจ๋ง ในมังกรหยก ของกิมย้ง เกี่ยวกันอย่างไร


จากเรื่องราวของเจงกิสข่าน มาถึง หนังกำลังภายในยอดฮิต --- มังกรหยก

ของ สุดยอดฝีมือนักประพันธ์นวนิยายกำลังภายใน ---  กิมย้ง

จากการเขียนเรื่องเจงกิสข่านในเอนทรี่ที่แล้ว
ความตั้งใจเดิมจะเอาเพลงประกอบหนังมาเก็บไว้ในบล็อก แต่พอเขียนไปแล้วความคิดมันก็โลดแล่นไปนึกถึงอะไรอีกหลายๆ เรื่อง  ตอนนี้ก็นึกถึงเรื่องมังกรหยก นวนิยายกำลังภายในที่อ่านและดูมาตั้งแต่เด็ก  และ เพลงประกอบหนังที่ชื่นชอบด้วย
เกี่ยวกันกับเอนทรี่ที่แล้ว เรื่อง เจงกิสข่าน อย่างไร 
ลองมาดูกันว่า  เจงกิสข่าน  ในปลายปากกาของ กิมย้ง ผ่าน ก๊วยเจ๋ง นั้น  เป็นอย่างไร  
มังกรหยก  มีชื่อเป็นภาษาจีน ว่า  射雕英雄传  ( shè diāo yīng xióng zhuàn)  
เขียนด้วยอักษรจีนตัวเต็มก็เขียนแบบนี้นะคะ  射鵰英雄傳
แปลว่า ตำนานวีรบุรุษยิงอินทรีย์  บางเวอร์ชั่นของไทย จึงแปลว่า ตอน จอมยุทธอินทรีย์  
เพราะก๊วยเจ๋ง พระเอกของเรื่องมีความเชี่ยวชาญในการใช้ธนู  
 ไม่มีความหมายว่า มังกร เลย


เวอร์ชั่นที่เหล่าซือชื่นชอบที่สุด คือ เวอร์ชั่น ปี 1983
ที่แสดงโดย ฮว๋างยื่อฮว๋า (หวงยื่อหัว 黄日华)  และ เวิงเหม่ยหลิง (องเหม่ยหลิง 翁美玲)

 
เพื่อนๆ ร่วมยุคเหล่าซือ และรุ่นน้องๆ  จะคุ้นเคยกับหนังจีนและตัวละครในเรื่องกันมาก 
ในเมืองจีน  คนจีนรุ่นนี้ก็รู้จักเรื่องนี้เป็นอย่างดี  
ผู้ประพันธ์ ท่านกิมย้ง (金庸) เคยรับตำแหน่งเป็นอธิการบดี มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง  浙江大学
(ที่เมือง Hangzhou บ้านเกิดของท่าน)  ก่อนเกษียณแล้วย้ายไปพักอยู่กับลูกๆ ที่ออสเตรเลีย 
เวลาท่านกิมย้งกลับไปเยี่ยมเมืองหังโจว (杭州 เมืองหลวงเก่าราชวงศ์ซ้ง)
มีบรรดาแฟนพันธุ์แท้ของท่าน มาคอยต้อนรับห้อมล้อมขอลายเซ็นมากมายยิ่งกว่าดาราชื่อดังเสียอีก
แต่เวลาเราไปคุยกับคนจีน ถ้าพูดว่า มังกรหยก หรือแปลจากคำในภาษาไทยไปเป็นคำในภาษาจีนแบบตรงตัว  
เขาก็จะไม่เข้าใจว่าเราหมายถึงเรื่องอะไร 
ท้ายเรื่อง แปะลิงค์เพลงประกอบหนังจีนกำลังภายใน เวอร์ชั่น หวงเยอะหัว ( 黄日华 ภาษาจีนกลางออกเสียงว่า ฮว๋างยื่อฮว๋า) 

เอาล่ะ เกริ่นเสียยาว
มาเข้าเรื่องตามหัวข้อเรื่องดีกว่า ว่าเรื่องมังกรหยก เกี่ยวอะไร กับ เจงกิสข่าน ที่เหล่าซือเขียนไปในเอนทรี่ที่แล้ว 

แนวการเขียนของท่านกิมย้ง  มีจุดเด่น คือมักอิงประวัติศาสตร์  แฝงแง่คิด  หลักปรัชญาในการแยกแยะความดีความชั่ว  
ปลูกฝังเรื่องความรักชาติของชาวจีน  ต่อต้านการรุกรานของต่างชาติ
โดยเรื่่องมังกรหยกนี้  ท่านกิมย้งอิงประวัติศาสตร์ในช่วง ยุคปลายราชวงศ์ซ้อง หรือ ราชวงศ์ซ่งใต้  
ช่วงปี ค.ศ. 1199 - 1221 
เป็นราชวงศ์ที่ปกครองโดยชาวฮั่น ( 汉族 ชาวจีน) ก่อนที่จะพ่ายแพ้กองทัพม้าเหล็กของ เจงกิสข่าน จากทุ่งหญ้าตอนเหนือ
ในช่วงนั้น ราชวงศ์ซ่งตอนปลาย  ประชาชนยากลำบาก  ขุนนางกังฉินได้ดิบได้ดี  ฉ้อราษฎร์บังหลวง กดขี่ข่มเหงชาวบ้าน
กิมย้งสะท้อนเรื่องราวผ่านตัวละครที่ชื่อ ก๊วยเจ๋ง ซึ่งมีบุคลิกซื่อๆ ยึดมั่นในคุณธรรม  
เป็นลูกหลานชาวฮั่นที่รักชาติแต่ไปเติบโตในดินแดนมองโกล
ได้รับการช่วยเหลือจากชาวมองโกล  รวมถึงได้รับการโปรดปรานจาก เจงกิสข่าน 
(อันนี้คือนิยายที่แต่งขึ้น แต่ในนิยายของกิมย้งก็มีตัวละครที่เคยมีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ปนอยู่ด้วย เช่น เตมูจิน - เจงกิสข่าน)
เมื่อโตขึ้นก๊วยเจ๋็งได้เดินทางกลับสู่ดินแดนตงง้วน (ประเทศจีน)  พบกับอึ้งย้ง  
และได้ฝึกวิทยายุทธจากอาจารย์สำนักต่างๆ มากมาย
ต่อมา ก๊วยเจ๋ง กลับไปที่มองโกลอีกครั้ง เพราะแม่ของเขายังอยู่ที่นั่น  
และได้อาสาออกรบร่วมกับกองทัพมองโกลที่สู้รบกับกิมก๊ก (ซึ่งเป็นชนเผ่าทางเหนือของจีน และเป็นศัตรูกับจีนและมองโกล)  
มีผลงานทางการรบ  ได้รับการชื่นชมจากเจงกิสข่าน  แต่งตั้งให้เป็น ราชบุตรเขยดาบทอง  
โดยหวังจะรับก๊วยเจ๋งเป็นบุตรเขย  คิดจะยกองค์หญิงหัวเจิง บุตรสาวที่เติบโตมาพร้อมกับก๊วยเจ๋งให้แต่งงานด้วย
แต่พอก๊วยเจ๋งและแม่รู้ว่าเจงกิสข่านมีแผนการจะยกทัพเข้าตีแผ่นดินจีน  
ก๊วยเจ๋งจึงวางแผนพาแม่หนีออกจากดินแดนมองโกล  แต่ถูกมองโกลล่วงรู้เสียก่อน  
แม่ของก๊วยเจ๋งตัดสินใจฆ่าตัวตายตอนนั้นเพื่อให้ก๊วยเจ๋งหนีไปคนเดียวไม่ต้องห่วงตน  
เพื่อกลับไปช่วยส่งข่าวให้แผ่นดินของพ่อแม่ได้
  
สุดท้ายก๊วยเจ๋งกลายเป็นหนึ่งในแกนนำที่ต่อต้านพวกมองโกลที่ยกทัพมารุกรานแผ่นดินจีน แผ่นดินของชาวฮั่น
เพราะทนดูกองทัพมองโกลที่มาฆ่าฟันย่ำยีคนจีนและยึดครองแผ่นดินจีนไม่ได้
กิมย้ง จึงเขียนถึง เจงกิสข่าน ในมุมมองที่ เจงกิสข่าน คือ ผู้รุกราน ที่ทำให้ชาวจีนต้องล้มตายจำนวนมาก 
ในเนื้อเรื่อง ยังมีตัวละครอีกคน คือ เอี้ยคัง มีบุคลิกที่ฉลาด เจ้าเล่ห์  
ที่ กิมย้ง ตั้งใจจะสร้างขึ้นเพื่อเปรียบเทียบตัดกับภาพของ ก๊วยเจ๋ง  ซึ่งพ่อของคนทั้งสองเป็นพี่น้องร่วมสาบานกัน  
ก๊วยเจ๋งจึงถือเอี้ยคังเหมือนพี่น้อง  และไม่ยอมฆ่าเอี้ยคัง  
ผลจากการปล่อยเอี้ยคัง ปล่อยคนชั่วให้ลอยนวล   ทำใ้ห้มีคนดีๆ ต้องตายด้วยน้ำมือของเอี้ยคังอีกจำนวนมาก 
เอี้ยคัง  ที่ไปเกิดและได้รับการเลี้ยงดูอย่างคุณชายในวังของท่านอ๋องแห่งกิมก๊ก ( ชนเผ่าหนี่เจิน)  
ยอมช่วยกิมก๊กรุกรานแผ่นดินจีนและเข่นฆ่าคนจีนด้วยกัน

เอี้ยคัง จึงถูก กิมย้ง เขียนให้เป็นผู้ร้ายของเรื่อง  เป็นพวก  หลงใหลในลาภยศสรรเสริญ  ยอมรับศัตรูเป็นบิดา
 ( สำนวนจีนใช้คำว่า 认贼作父 แปลว่า นับถือโจรเป็นพ่อ)    

อันนี้คนอ่านที่ไม่รู้ประวัติศาสตร์จีน อาจจะงงหน่อย  ขยายความหน่อยก็คือ
สมัยก่อน ทั้งชนกิมก๊กของชนเผ่าหนี่เจิน และชนเผ่ามองโกล ต่างก็เป็นชนเผ่าที่อยู่ทางเหนือของจีน  สู้รบเก่งทั้งสองเผ่า
และเป็นชนเผ่าที่อยากครอบครองแผ่นดินจีนเนื่องจากอุดมสมบูรณ์กว่ามาก
ดูตามภูมิศาสตร์ก็พอจะเข้าใจได้ว่าทำไมสองชนเผ่านี้ถึงอยากยึดครองและอยากได้แผ่นดินจีน  
เพราะมีทรัพยากรณ์มากมาย  สมัยนั้นยังไม่รู้ว่ามีถ่านหินหรือมีน้ำมันด้วยซ้ำ  
แค่รู้ว่ามีอากาศอบอุ่นสบายๆ  ดินดีเหมาะกับการเพาะปลูก ฯลฯ  
ชนเผ่าหนี่เจิน อยู่ในดินแดนที่เป็นมณฑลเฮยหลงเจีนง (ฮาร์บิน 黑龙江 --- 哈尔滨 ) ปัจจุบัน  หนาวสุดยอด แห้งแล้ง     
ส่วนมองโกลอยู่ในทุ่งหญ้าและทะเลทราย ก็ปลูกอะไรไม่ได้  ได้แต่เลี้ยงสัตว์ 

สรุปว่า ทั้งมองโกลและนีเจิน ล้วนเป็นศัตรูผู้รุกรานและต้องการยึดครองแผ่นดินตงง้วนในสมัยนั้น

มังกรหยก  เรื่องนี้  กิมย้ง เขียนขึ้นและเผยแพร่ทาง น.ส.พ. จีน 香港商报  
ที่ตีพิมพ์  ในฮ่องกง  ระหว่างปี ค.ศ. 1957 ถึง 1959 ( พ.ศ. 2500 - 2502 )
โดยมีเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ในจีนช่วงปี ค.ศ. 1199 - 1221 เป็นภูมิหลัง   (公元 1199  至  1221 年 )  
ซึ่งเป็นช่วงที่เจงกิสข่านกำลังใช้กองทัพม้าเหล็กในการขยายอาณาจักรมองโกล

มาดูเรื่องจริงที่ไม่ใช่นิยายบ้าง

ช่วงราชวงศ์ซ่งตอนปลาย  มีเรื่องราวของ ขุนนางตงฉิน (ขุนนางที่ดี ซื่อสัตย์) อย่างเช่น ท่านงักฮุย ( 岳飞 เยว่เฟ๊ย) ด้วย

งักฮุยเป็นคนรักชาติจงรักภักดี  ถูกใส่ร้ายจนถูกฮ่องเต้เรียกกลับมาจากแนวหน้าและตายในคุก  มีสุสานอยู่ที่หังโจว

เรื่องของงักฮุย ได้รับการสร้างเป็นหนังหลายเรื่อง  
รวมถึงหนังจีนฮ่องกงชอร์บราเดอร์  เรื่อง 12 ป้ายทอง (十二金牌)  
ที่นำแสดงโดยดารารุ่นใหญ่อย่าง เดวิด เจียง ตี้หลง ฟู่เซิน ฯ  
ที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเรียกตัวงักฮุยกลับจากการป้องกันประเทศเพื่อนำตัวมาสังหาร
(เอาเป็นว่ายังไม่เขียนเรื่องงักฮุยก่อน เดี๋ยวจะจบไม่ลง) 

ตามข้อมูลที่เหล่าซือเคยค้นเจอ   มีคนที่ชื่อ ก๊วยเจ๋ง และอึ้งย้ง จริง  ทั้งสองตายคาป้อมเมือง ในการศึกที่สู้กับกองทัพมองโกล

เจงกิสข่าน ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นวีรบุรุษจากทุ่งหญ้า
แต่ในปลายปากกาของกิมย้ง เขาคือ ผู้รุกรานที่เข่นฆ่าคนจีนเพื่อแย่งชิงแผ่นดินเกิดของพ่อแม่ก๊วยเจ๋ง

ตัวละครสำคัญในเรื่องมังกรหยก
          ก๊วยเจ๋ง   จอมยุทธอุดร ยอดวีรบุรุษแห่งตงง้วน
                          อึ้งย้ง   ขงเบ้งหญิง ยอดสตรีศรีต้งง้วน ธิดาแห่งมารบูรพา
          จิวแป๊ะทง   เฒ่าทารก ศิษย์ผู้น้องแห่งเทพมัชฌิม
          เจ็ดประหลาดกังน้ำ

        หมายเหตุจากเหล่าซือ  กังน้ำ เป็นภาษาสำเนียงแต้จิ๋ว  กังน้ำ ก็คือดินแดนแุบลุ่มน้ำแยงซีเกียงก่อนไหลลงสู่ทะเล  แถวๆ มณฑลเจ้อเจียง เซียงไฮ้ ซูโจว หังโจว ปัจจุบัน  เป็นส่วนที่อุดมสมบูรณ์มาก 

          เอี้ยคัง   พ่อเอี้ยก้วย
          อาวเอี๊ยงฮง   พิษประจิม 
          อางเอี๊ยงเข็ก  หลานชายของอาวเอี๊ยงฮง 
          อ๋องแห่งกิมก๊ก
          เจงกิสข่าน    ที่แสดงโดย ปาเซิน  巴森  ผู้สืบสายเลือดจากลูกชายคนที่สอง (ชาเหอถาย) ของ  เจงกิสข่าน

         เป็นนักแสดงคนเดียวกันกับคนที่แสดงเป็น  เจงกิสข่าน  ในเรื่อง  เจงกิสข่าน จักพรรดิ์สะท้านโลก
  
                  

 จบด้วยเพลงนี้ เพลงประกอบหนังจีน เรื่อง มังกรหยก  เวอร์ชั่นที่นำแสดงโดย หวงเยอะหัว และ องเหม่ยหลิง
เพลงนี้ถือว่าเป็นเพลงที่เพราะที่สุดเพลงหนึ่งในบรรดาเพลงประกอบหนังจีน เรื่อง มังกรหยก จากทุกเวอร์ชั่น

ขับร้องเป็นภาษาจีนกวางตุ้ง
[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=ZngZvsJuihk[/youtube]


เขียนโดยสุวรรณา สนเที่ยง
โพสต์ใน www.futurec-cn.com
http://www.futurec-cn.com/จากเจงกิสข่าน-ถึง-ก๊วยเจ/


วัฒนธรรมจีน 中国文化 Chinese Culture Flag Counter

วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

มู่หลานฯ เจาะสาระ 16 (ตอนจบ) และเพลงประกอบทั้งสามเพลง

花木兰传奇
มู่หลาน จอมทัพหญิงกู้แผ่นดิน เวอร์ชั่น 2013

         ซีรีย์มู่หลานฯ พากย์ไทยในทีวีจบแล้ว  แต่หลายคนก็ยังติดใจและย้อนดูวีดีโอทางยูทูป  เพื่อเก็บข้อคิดและสาระดีๆ ไว้ปรับใช้กับชีวิตสังคมปัจจุบันและเอาไว้สอนลูกหลาน

         สำหรับแง่คิดในสองตอนสุดท้ายที่ผู้เขียนเห็นว่าเป็นหลักการที่นำมาใช้กับชีวิตเราได้  นั่นก็คือ  ทางที่เดินผ่านย่อมมีผิดพลาดบ้าง ล้มเหลวบ้าง สำเร็จบ้าง พ่ายแพ้บ้าง ชนะบ้าง  ต้องทำใจยอมรับกับมันให้ได้  และยังต้องเรียนรู้จากความล้มเหลวเหล่านั้นด้วย เพื่อจะได้ทำสำเร็จในวันหน้า

         เรื่องดำเนินถึงตอนที่ทัพของมู่หลานแพ้ทัพของโหยวหยานที่นำโดยจินฉานจื่อ  มู่หลานเห็นว่าตัวเองเพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็นแม่ทัพ ออกรบครั้งแรกก็แพ้เสียแล้ว รู้สึกรับไม่ได้และอับอายที่จะกลับไปสู้หน้าฮ่องเต้ จึงไม่ยอมปรับยุทธวิธี ไม่ยอมสั่งถอย  แต่กลับดันทุรังออกคำสั่งให้ทหารลุยต่อ
       
          ในฉากนี้ มีบทพูดเด่นๆ ของ "องค์ชายตัวหลุน" (อดีตแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นโหยวหยาน) ซึ่งขณะนั้นอยู่ในทัพมู่หลานด้วย  ได้พูดเตือนสติ "จอมทัพมู่หลาน" ว่า สถานการณ์อย่างนี้ต้องสั่งถอย ถ้าขืนสู้รบต่อไปแบบนี้จะต้องเสียหายหนัก  แต่มู่หลานไม่ยอม

          มู่หลานพูดว่า " ข้าทำศึก อยู่แนวหน้าตลอด ถอยทัพไม่ได้  ตอนนี้เป็นแม่ทัพ ยิ่งถอยไม่ได้ "

          ตัวหลุนพูดว่า "ท่านผิดแล้ว คนที่เป็นแม่ทัพ ต้องเก็บอารมณ์  ยึดชัยชนะสุดท้ายเป็นหลัก หากท่านเป็นแค่พลทหาร แค่ตั้งใจบุกไปข้างหน้าก็พอ  แต่ตอนนี้ท่านเป็นแม่ทัพ สายตาต้องกว้างไกล  มองที่ภาพรวม  หากยึดติดกับการเสียเมืองเสียที่มั่น อาจพลาดชัยชนะครั้งสุดท้ายได้  ถอยทัพตอนนี้ ยังสามารถรักษากำลังไว้ วันหน้ายังกลับมาชนะได้อีก "

         มู่หลานบอกว่า " รบครั้งแรกก็แพ้ แล้วจะไปสู้หน้าฮ่องเต้และประชาชนได้อย่างไร "

         ตัวหลุนพูดว่า "แพ้ชนะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการทำศึก  ท่านจะรับแต่ชัยชนะ ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ไม่ได้"  ( ผู้เขียนชอบหลักปรัชญานี้)

         มู่หลานพูดว่า "ข้าจะไม่ยอมให้ตัวเองแพ้เด็ดขาด"

         ในฉากนี้ ตัวหลุนตวัดเสียงเข้มใส่มู่หลาน "ท่านแม่ทัพ อยากชนะ  ก่อนอื่นต้องรู้จักยอมรับความพ่ายแพ้ก่อน  ต้องเรียนรู้จากความพ่ายแพ้  ครั้งต่อไปจึงจะชนะได้ " (必须先得学会如何接收失败,能在失败中吸取教训)

         ในที่สุด จอมทัพมู่หลานก็ยอมรับคำแนะนำของตัวหลุน สั่งให้ถอยทัพเพื่อรักษาชีวิตทหารไว้
( ซึ่งผู้เขียนเห็นว่านี่เป็นหลักการสำคัญของการเป็นผู้นำ ต้องแพ้ได้ชนะได้)





         .................................................
       
         ซี่รีย์เรื่องมู่หลานฯ จบลงด้วยองค์ชายตัวหลุนแห่งแคว้นโหยวหยานจับมือกับแคว้นเว่ย ชิงอำนาจคืนจากจินฉานจื่อที่ฆ่าท่านข่านและกระหายสงคราม

         จากนั้นผู้นำของสองแคว้นจึงปักดาบลงบนดิน  เป็นสัญลักษณ์ยุติสงคราม จับมือเป็นมิตรต่อกัน ร่วมสร้างสันติสุขและความมั่งคั่งให้กับสองแผ่นดิน

         มู่หลานกลับแคว้นเว่ยพร้อมกับฮ่องเต้  องค์ชายตัวหลุนกลับไปสะสางกิจการภายในแคว้นโหยวหยานก่อนจะกลับมาหามู่หลานอีกครั้ง

         ฮ่องเต้ปูนบำเหน็จให้กับมู่หลาน โดยแต่งตั้งให้เป็นขุนนางใหญ่ แต่มู่หลานไม่ขอรับตำแหน่งลาภยศใดๆ และขอทูลลากลับไปดูแลบิดาที่แก่เฒ่าที่หมู่บ้านปักผ้าหวู่เฟิ่งกู่
         .........................

         หลังจากที่จากบ้านเกิดไปนานถึง 10 ปี  เมื่อกลับถึงหมู่บ้าน  ชาวบ้านต่างพากันออกมาต้อนรับมู่หลานด้วยความดีใจที่นางรอดชีวิตจากการออกรบแทนบิดา

         มู่หลาน นำธงศึกที่ปักอักษรจีน " 花 " (ฮวา) มามอบให้บิดาเพื่อเป็นเกียรติแก่ตระกูลฮวา

         มู่หลาน กลับมาเป็นมู่หลาน หญิงทอปักผ้าคนเดิม  รอคอยการมาขององค์ชายตัวหลุน

         ......................................................
       
         ในท้ายเรื่อง ได้สรุปว่า  สันติสุข ได้มาด้วยความร่วมมือร่วมใจของชาวบ้าน  ความเสียสละ และชีวิตเลือดเนื้อของชาวเว่ย และชาวโหยวหยาน ซึ่งรวมถึงเฮ่อหุงและสาวใช้ชาวโหยวหยานของฝูหลิงด้วย

         ในประวัติศาสตร์โลก  เต็มไปด้วยสงคราม
         หนังและละครส่วนมากของโลกจะสร้างวีรกรรมที่ยิ่งใหญ่ของคนที่ชนะสงคราม

         แต่ซีรีย์เรื่องมู่หลานเวอร์ชั่นนี้ ได้เสนอแนวทางและมุมมองที่แตกต่าง
         ไม่ได้เน้นว่าการทำสงครามดี
         ไม่ได้เน้นว่าฮ่องเต้ดี
         แต่เน้นว่าผู้คนส่วนมาก  แม้กระทั่งตัวแม่ทัพก็ไม่ต้องการสงคราม
         แต่มีคนส่วนหนึ่งที่หวังผลประโยชน์ จึงพยายามยุให้เกลียดกัน พี่น้องแตกคอกัน สู้กัน รบกัน
       
         ซีรีย์เรื่องนี้ไม่เน้นการชิงรักหักสวาท  ไม่เน้นการโชว์สรีระผู้หญิง
         ตลอดทั้งเรื่องไม่มีฉากโป๊ฉากกอดจูบเลย
         แต่ก็สามารถสร้างเรตติ้งและความประทับใจให้แก่คนดูได้
..............................................

         เพลงประกอบสองเพลงที่อยู่ในตอนมู่หลานกลับบ้านเกิด ตอนสุดท้ายของซีรีย์เรื่องนี้  หลายๆ คนบอกว่าอยากฟัง  แต่ไม่รู้ชื่อเพลง จึงหาจากยูทูปไม่เจอ
         เคยหามาโพสต์ไว้ก่อนหน้านี้  เพลงประกอบตอนที่มู่หลานจูงม้ากลับหมู่บ้าน  ชื่อเพลง 问月

         ส่วนเพลงสุดท้าย  ตอนที่มู่หลานทอผ้าและรอตัวหลุนขี่ม้ามาหา ชื่อเพลง 一针一线  ( แปลว่า ทีละเข็มทีละเส้น) หมายถึงใช้เข็มกับด้ายปักทีละเข็มทีละเส้นจนประกอบขึ้นเป็นภาพแผ่นดินอันงดงาม (อุปมา แผ่นดินต้องสร้างและรักษาไว้ด้วย .....)  

         รวมแล้วจะมีเพลงประกอบซี่รีย์เรื่องมู่หลานฯ อยู่ 3 เพลง

         เพลงจบตอนชื่อเพลง  女儿香
         ในบทความตอนจบนี้ จึงขอนำมาโพสต์รวมกันอีกครั้งครบทั้งสามเพลง

เพลงแรก 
问月 เพลง 问月 (ถามจันทร์) 花木兰传奇主题曲  (คลิกดูเนื้อร้องที่นี่)

เพลงที่สอง 一针一线



 เนื้อเพลง
一针一线 绘出锦绣河山       只为万家团圆
一刀一剑 划断相思女儿泪    吹角连营梦更寒
不让胡马度关山
一针一线 似水柔情无限       翩翩和亲心愿
一刀一剑                             寒光铁衣伴入眠
金戈铁马声震天
哪怕马革裹尸还                  千江有水千江月
万里无云万里天
一指流沙 荒了多少年华      只闻木兰花儿香
飘过 飘过    千古流芳

เพลงที่สาม 

เพลงจบตอน 女儿香 ลิงค์ฟังเพลงนี้ (คลิกที่นี่)     

       
.......................................

         มีผู้อ่านถามมาหลายคนว่า ซีรีย์เรื่องนี้และนักแสดงได้รางวัลอะไรบ้างไหม
       
         ก็มีนักแสดงหญิง "โหว เมิ่ง เหยา 候梦瑶 " ที่แสดงเป็น "ฮวามู่หลาน" ได้รับรางวัล "นักแสดงใหม่ยอดเยี่ยม"
       
         หลายคนดูเรื่องนี้แล้วบอกว่า ดีแลนกัว ( กัวผิ่นเชา 郭品超)น่าจะได้รางวัลดารานำฝ่ายชายยอดเยี่ยม ฯลฯ

         ที่ผ่านมา นักแสดงที่รับบทเป็น "ฮวามู่หลาน" มักจะได้รางวัล เพราะว่าเป็นบทที่โดดเด่นมาก
         อย่างเช่น 花木兰 ฮวามู่หลาน เวอร์ชั่น ปี ค.ศ. 1963 ของ บริษัท ชอว์บราเดอร์ ฮ่องกง ก็ทำให้นักแสดงฮ่องกง  "หลิงปัว 凌波" ได้รับรางวัลนักแสดงนำฝ่ายหญิงยอดเยี่ยมมาแล้ว

         เวอร์ชั่นฮ่องกงที่เป็นละครร้อง (ยุคนั้นนิยมละครร้องมาก ทั้งหนังฝรั่ง จีน ไทย)  เป็นเวอร์ชั่นที่ผู้เขียนได้ดูเป็นเวอร์ชั่นแรก และชอบมากที่สุดเวอร์ชั่นหนึ่ง  นอกจากจะได้ความบันเทิงที่มีสาระแล้ว ยังได้ฝึกฟังฝึกร้องภาษาจีนด้วย  แต่เนื่องจากเป็นภาพยนตร์ ความยาวแค่ไม่ถึงสองชั่วโมง จึงไม่สามารถใส่รายละเอียดลงไปในหนังได้มากนัก

         สำหรับเวอร์ชั่นปี 2013 นี้  ผู้เขียนเห็นว่าเป็นเวอร์ชั่นที่สร้างได้ดี มีสาระ ให้แง่คิด และใช้ภาษาดีที่สุด
ส่วนตัวในฐานผู้ชม ก็อยากจะมอบรางวัลดังต่อไปนี้
ผู้เขียนบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม 
ผู้กำกับยอดเยี่ยม 
ดำเนินเรื่องยอดเยี่ยม (รางวัลแบบนี้คงไม่มี) 
นักแสดงนำฝ่ายชายยอดเยี่ยม (กัวผิ่นเชา - จากไต้หวัน) 
นักแสดงตัวร้ายยอดเยี่ยม (ลวี่เหลียงเหว่ย - จากฮ่องกง)
นักแสดงประกอบยอดเยี่ยม ( อ้ายตง - นักแสดงจีนแผ่นดินใหญ่)
และอีกหลายๆ รางวัล
.......................

จากผู้เขียน
เก็บสาระจากซีรีย์เรื่องมู่หลานฯ
ที่เริ่มเขียนมาตั้งแต่ 19 กันยายน 2015 จนถึงวันนี้
เป็นการเขียนวิจารณ์หนังแบบยาวๆ ครั้งแรกและเรื่องแรก
เขียนขึ้นจากความชื่นชอบส่วนตัวและเห็นคุณค่าของละคร
แต่เนื่องจากไม่ใช่นักวิจารณ์หนังมืออาชีพ และมีข้อจำกัดเรื่องความสามารถ
การลำดับเรื่องจึงไม่ค่อยดี ภาษาไม่สลักสลวย
แต่รู้สึกภูมิใจที่ตัวเองเขียนได้ต่อเนื่องยาวถึง 5 เดือน
เก็บแง่คิด สาระ  สำนวนจีนมาได้มากมาย
เก็บตัวอย่างรูปประโยค และการใช้ภาษามาใช้ประกอบการสอน
ทำให้ผู้เรียนเห็นบริบทพร้อมๆ กับได้แนวคิดดีๆ ไปด้วย
ดีใจที่เขียนแล้วได้รับเสียงตอบรับ มีแฟนคลับกับเขาบ้าง
มีคนอ่านส่งข้อความมาแสดงความเห็นที่ยิ่งคุยยิ่งแตกสาระออกไปอีก
ทำให้ตัวเองได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีกหลายเรื่อง
มีผู้อ่านที่ส่งข้อความมาเร่งให้เขียนต่อด้วยความอยากอ่านจริงๆ   เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เขียนบล็อกมาหลายปี
รู้สึกดีที่ได้รับการตอบรับและมีแฟนติดตามกับเขาบ้าง
มีคนอ่านส่งข้อความมาแสดงความเห็นที่ยิ่งคุยยิ่งแตกสาระออกไป
ทำให้ตัวเองได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีกหลายเรื่อง
ดีใจที่มีผู้อ่านส่งข้อความมาเร่งให้เขียนต่อด้วยความอยากอ่านจริงๆ
ถูกกดดันให้รีบเขียนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เขียนบล็อกมาหลายปี แต่ก็แอบดีใจและมีความสุข
ขออภัยในช่วงที่ผ่านมาไม่ค่อยมีสมาธินั่งเขียนยาวๆ

ขอบคุณ บล็อกเกอร์ "ลิงเขียว" ที่ร่วมถ่ายทอดเรื่องราวอารมณ์ความประทับใจต่อซีรีย์เรื่องนี้
ด้วยลีลาการเขียนที่สนุกสนาน อ่านแล้วอมยิ้มทุกคอมเมนท์ 
เพิ่มสีสรรให้เรื่องที่เขียนนี้อย่างมากมาย

ขอบคุณ คุณ Jeng Piyamanag  คุณ Tapootum Tapootum ที่ร่วมแสดงความเห็นให้เรื่องราวสมบูรณ์ขึ้นและผลักดันมาตลอด

ขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกความเห็นทุกกำลังใจค่ะ
คงได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนกันอีกในโอกาสต่อไป

ด้วยความเคารพ
สุวรรณา สนเที่ยง 张碧云
25 กุมภาพันธ์ 2016

......................


 เก็บตก เบื้องหลังถ่ายทำ และนักแสดง
มู่หลานทางทีวีจบแล้ว ยังเห็นมีแฟนๆ หลายคนคิดถึงองค์ชายตัวหลุน (ดีแลนกัว กัวผิ่นเชา 郭品超 )
มู่หลาน (ที่แสดงโดยโหวเมิ่งเหยา - 候梦瑶)
จึงเอาลิงค์สัมภาษณ์นักแสดงที่แสดงเป็น มู่หลาน  ตัวหลุน ย่าบอด (郑佩佩 เจิ้งเพ่ยเพ่ย)  และ จินฉานจื่อ ( 吕良伟 ลวี่เหลียงเหว่ย) มาแปะให้ชมกัน




อีกลิงค์เป็นเบื้องหลังที่เกี่ยวกับชุดแต่งกายในเรื่องมู่หลาน จอมทัพหญิงกู้แผ่นดิน





............................

สนใจดู 花木兰 เวอร์ชั่น 1963  ที่สร้างโดย ชอว์บราเดอร์ ฮ่องกง คลิกตามลิงค์นี้  https://www.youtube.com/watch?v=wQT9a0VI4cM)

เวอร์ชั่นนี้นำแสดงโดย 凌波 หลิงปัว (หลินปอ) และ 金汉 จินฮั่น
ต่อมานักแสดงสองคนนี้แต่งงานกัน และอยู่กินกันมาถึงปัจจุบัน เป็นสามี-ภรรยาตัวอย่างในวงการบันเทิงฮ่องกง  
ต่อมาอพยพไปพำนักอยู่ที่ประเทศคานาดา
หลิงปัว ยังรับเชิญร่วมงานคอนเสิร์ตบ้างเป็นครั้งคราว
งานแสดงเรื่องเด่นอีกเรื่องของเธอที่ผู้เขียนประทับใจมากที่สุด คือ "ม่านประเพณี"
มีโอกาสจะมาเขียนถึง ม่านประเพณี อีกสักเรื่อง 


         
         
.............................

เพื่อนๆ ที่แสดงความเห็นผ่านช่องเฟชบุ๊กในบทความนี้  

ถ้าก็อปข้อความที่คอมเมนท์นี้ไปแปะไว้ที่เฟชบุ๊กเพจ https://www.facebook.com/SuwannaFutureC/?ref=hl ด้วย 

ก็จะมีสัญญาณเตือนให้เหล่าซือเข้ามาเห็นคอมเมนท์นั้นค่ะ

...................................

ดูหนังเรื่องนี้ภาคภาษาจีนทางยูทูป ที่ลิงค์นี้ (คลิกที่นี่)

พากย์ไทย ที่คุณ naruto_multiThree อัพไว้ในยูทูปหลังหนังออกอากาศ (คลิกที่นี่)

เพลงประกอบตอนจบ 女儿香 (คลิกที่นี่)
เพลงประกอบตอนมู่หลานกลับบ้าน 问月 (คลิกที่นี่) 


ขอบคุณทุกคลิกทุกความคิดเห็นตั้งแต่ตอนแรก - ตอนปัจจุบัน
Flag Counter







วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

มู่หลานฯ จอมทัพหญิงกู้แผ่นดิน เจาะสาระ 15 หัวใจของเรื่องนี้ การร่วมมือ การเรียนรู้ คือทางรอด


花木兰传奇
มู่หลาน จอมทัพหญิงกู้แผ่นดิน เวอร์ชั่น 2013

        ซีรีย์ที่แพร่ภาพในไทยพีบีเอส เวอร์ชั่นพากย์ไทยทั้งหมด 56 ตอน ก็ได้จบลงไปแล้วเมื่อ  9 มกราคมที่ผ่านมา

        แต่เหล่าซือก็ยังเขียนไม่จบ
        ตอนนี้น่าจะเป็นไฮไลท์ สรุปหัวใจสำคัญของซีรีย์เรื่องนี้ว่าต้องการนำเสนออะไร ?

       ตอน 15 ที่เขียนไปหลังปีใหม่  ได้รับความคิดเห็นจากเพื่อนผู้อ่านหลายท่านผ่านหน้าบล็อกและหลังไมค์  ทำให้รู้สึกดี
เราไม่ได้สื่อสารอยู่ฝ่ายเดียว  มีคนชอบเรื่องนี้และเห็นว่าเป็นละครที่สร้างสรรค์ด้วยเหมือนกัน
     
.......................

จากบทความเรื่อง มู่หลานฯ เจาะสาระตอนที่ 15
        ท่านผู้อ่าน คุณ Jeng Piyamanag ได้เขียนคอมเมนท์มาหลายเรื่อง มีตอนหนึ่งเขียนไว้อย่างน่าสนใจว่า

" มู่หลานทางทีวีจบแล้ว ฝากหลายๆ เรื่องราวให้คนดูเอาไปปรับใช้กับตัวเอง
  ขอเชียร์ให้เขียนต่อไป
  ตนเองจะให้รางวัลภาพยนตร์ท่ี่สร้างสรรสังคมดีเยี่ยม
  นอกจากนี้ ผู้สร้างก็มีวิสัยทัศน์ว่าปัจจุบันโลกเปลี่ยนไปควรนำเสนออย่างไร "
...............................


         ก่อนจะเข้าเรื่องเจาะสาระตอนที่ 16 นี้  ขอพูดถึงเรื่องคลื่นความหนาวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมาเล็กน้อย  ว่าทำให้นึกเชื่อมโยงไปถึงเรื่องราวอะไรในเรื่องซีรีย์มู่หลานฯ เวอร์ชั่นนี้บ้าง ?

          ตั้งแต่ประมาณวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา คลื่นความหนาวกำลังแรงที่แผ่ลงมาจากไซบีเรีย  กระทบมองโกลเลีย จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ฯลฯ  รวมทั้งกระทบภาคเหนือภาคอีสานของไทย ทำให้อากาศหนาวจัดจนนักท่องเที่ยวภูทับเบิกต้องหนีกลับตั้งแต่คืนวันที่ 24 มกราคมนั้น

          คลื่นความหนาวนี้ทำให้เกิดพายุหิมะถล่มเมืองต่างๆ ของจีนในลักษณะทั่วประเทศ  สถานการณ์เลวร้ายที่สุดในรอบหลายสิบปี

          แม่น้ำ  น้ำตก  ทะเลสาบ ฯลฯ ในจีน กลายเป็นน้ำแข็ง เดินเรือไม่ได้ เหมือนถูกแช่แข็งไว้ค่อนประเทศ

     ** อ่านเรื่องหนาวสุดในรอบหลายสิบปีเพิ่มเติม ในบทความที่เขียนไว้ที่ลิงค์นี้
          http://suwannafc.blogspot.com/2016/01/25-2016.html


          ภัยหนาวครั้งนี้  ทำให้ผู้เขียนนึกถึงซีรีย์จีนมู่หลานฯ  ที่ทำให้เห็นภูมิอากาศที่แตกต่างระหว่างทุ่งหญ้าทางเหนือของจีน ที่อยู่ของชาวโหยวหยาน (ปัจจุบันคือแถบมองโกลเลียและมณฑลเฮยหลุงเจียงของจีน) กับ แผ่นดินจงหยวน (คือแถบภาคกลางลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียงและภาคใต้ของจีนปัจจุบัน)    

          ที่แคว้นโหยวหยาน  มีแต่ทุ่งหญ้ากับทะเลทราย  ชาวทุ่งหญ้าจึงต้องพยายามตีลงมาทางใต้เพื่อยึดแผ่นดินที่มีสภาพอากาศอบอุ่นกว่า  เพาะปลูกได้  และอุดมสมบูรณ์กว่า

          คือปัญหาทรัพยากรทางธรรมชาตินั่นเอง
.......................................

ในเกร็ดประวัติศาสตร์ (จริง)

          ชาวโหยวหยาน (柔然)มีการสู้รบกับชาวจงหยวน (中原)มาตลอด เป็นเวลานานมาแล้ว
และไม่ใช่มีแค่ชาวโหยวหยาน ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของชาวมองโกลเท่านั้น ที่ต้องการตีลงมาเพื่อหาแผ่นดินที่อบอุ่นกว่า

          ในสมัยโบราณยังมีชาวแมนจู (满族)ที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจีน (ปัจจุบันคือดินแดนมณฑลเฮยหลุงเจียง มีฮาร์บินเป็นเมืองเอกที่หนาวติดลบ 30 องศา)  ก็มีการสู้รบกับชาวจงหยวนมาตลอด

          กองทัพม้าเหล็กของชาวมองโกลเคยยึดแผ่นดินจงหยวน (ที่ราบลุ่มของจีนแถบสองฝั่งแม่น้ำแยงซีเกียง) ได้ในสมัยเจ็งกิสข่าน 成吉思汗 -  ข่านผู้ยิ่งใหญ่แห่งมองโกล เมื่อประมาณ 800 ปีก่อน ตั้งเป็นราชวงศ์หยวน (元朝 ปี ค.ศ. 1971 - 1368)ปกครองจีน 97 ปี เกือบ 100 ปี ( ตำนานเรื่องมู่หลานเกิดขึ้นประมาณ 2000 ปีก่อน ห่างกับช่วงที่ชาวมองโกลปกครองจีนราว 1200 ปี)

          กองทัพชาวแมนจูก็เคยยึดแผ่นดินจีนได้  ตั้งเป็นราชวงศ์ชิง(清朝 ค.ศ. 1636 - 1912)ปกครองชาวจีน - ชาวฮั่น นาน 276 ปี  เกือบ 300 ปี
...........................

          นึกเปรียบเทียบกับบ้านเราที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยแสงแดด แหล่งน้ำ ภูมิประเทศที่งดงาม  และทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ

          บ้านเราก็เป็นที่หมายปองของชาติอื่นโดยเฉพาะชาติใหญ่ๆ ไม่ต่างกันกับสมัยโบราณแบบในละคร

...........................

กลับมาที่ซีรี่ย์จีนเรื่องมู่หลานฯ จอมทัพหญิงกู้แผ่นดิน 
ซึ่งเป็นละครที่เสริมแต่งขึ้นโดยมีเรื่องราวในประวัติศาสตร์จีนเป็นแค่ฉากหลัง แต่ไม่ใช่ตามจริง 

         สุสาน และ ป้ายวิญญาณในหมู่บ้านหวู่เฟิ่งกู่  จึงเป็นสัญลักษณ์สื่อถึงความโหดร้ายของสงคราม

         ผู้ชายในตระกูลของ "จางจู้จื่อ" ก็ตายในสงครามเกือบหมด  เหลือแต่ตัวเขากับย่าที่ร้องไห้จนตาบอด

         พระเอก - องค์ชายตัวหลุน  ในเรื่องนี้  จึงได้เสนอแนวคิดใหม่ แทนการใช้กำลังยึดครอง คือ ความร่วมมือ การเรียนรู้  การผสมผสานวัฒนธรรม

        รูปแบบในสมัยโบราณก็คือ ผ่านการแต่งงานขององค์หญิงองค์ชายทั้งของสองแคว้น  เพื่อให้หญิงชาวเว่ยไปสอนการปักทอผ้าให้กับชาวโหยวหยานที่เดิมเลี้ยงสัตว์และใช้ชีวิตเร่ร่อน
...........................................


ในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ  กาลเวลาเปลี่ยน  สถานการณ์เปลี่ยน  ทุกอย่างก็เปลี่ยน  
มิตรกลายเป็นศัตรู  ศัตรูกลายเป็นมิตร  แปลงศัตรูเป็นมิตร หรือ ไล่มิตรไปเป็นศัตรู  

           อดีตรัชทายาท องค์ชายของแคว้นเว่ยอย่างทั่วป๋าเส้า  ก็ไปร่วมมือกับแคว้นโหยวหยานได้
           องค์ชายตัวหลุนแห่งโหยวหยาน  ก็หันมาร่วมมือกับแคว้นเว่ยได้
           เสนาบดีใหญ่อย่างจินฉานจื่อ ที่พระเอกนับถือเป็นอาจารย์  เป็นที่ปรึกษาของท่านข่าน กลายเป็นคนทรยศได้
           ฮ่องเต้ เมื่อถึงคราวเพื่อชาติ (เพื่อบัลลังก์)  ก็ยอมกลืนเลือดลดทิฐิได้

           ก่อนที่จะไปถึงจุดไฮไลท์ - คาดว่าเป็นบทสรุปหัวใจสำคัญที่ละครเรื่องนี้ต้องการนำเสนอ (การร่วมมือ การเรียนรู้ คือทางรอด)  ทั่วเป๋าเส้า ได้หนีไปขอพึ่งกองกำลังของฝ่ายโหยวหยาน โดยสมคบกับจินฉานจื่อ - เสนาบดีใหญ่ที่ท่านข่านแห่งโหยวหยานไว้วางใจ และเป็นคนรักเก่าของแม่   ขอให้ท่านข่าน (พ่อตัวหลุน) สนับสนุนเขาทำพิธีขึ้นบังลังก์ฮ่องเต้แห่งเว่ย (ตั้งฮ่องเต้ซ้อนขึ้น) ในดินแดนของโหยวหยาน  เพื่อเรียกขวัญกำลังใจจากกองกำลังและผู้คนที่ยังสนับสนุนเขาในแคว้นเว่ย โดยเฉพาะแถบพื้นที่ที่เขาเคยปกคอรงอยู่สมัยดำรงยศเป็น "ชิงเหอฮ่อง"  เพื่อจะสร้างความแตกแยกในหมู่ชาวเว่ย  เมื่อเกิดศึกใน แคว้นเว่ยก็จะระส่ำระสาย  ทั่วป๋าเส้าจะได้โอกาสช่วงชิงอำนาจจากฮ่องเต้ทั่วป๋าเทาซึ่งเป็นพี่ชายต่างมารดา

            ส่วนจินฉานจื่อเห็นเป็นโอกาส  จึงยุยงให้ท่านข่านช่วยทั่วป๋าเส้าประกาศขึ้นบัลลังก์ในดินแดนโหยวหยาน  แย่งชิงอำนาจจากทั่วป๋าเทา (คืน)  ถ้าสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในแคว้นเว่ยได้  ฝ่ายโหยวหยานจะเป็นผู้ได้ประโยชน์

            ท่านข่านเห็นด้วย แต่ต้องคุยกันก่อนว่า  เมื่อได้อำนาจแล้ว จะต้องแบ่งความอาวุโส (ใครใหญ่กว่า)  ทั่วป๋าเส้ารับคำว่าจะยกให้ท่านข่านเป็นผู้อาวุโส  ท่านข่านพอใจ

            แต่ตัวหลุนขัดขวางแผนการนี้ เขาเห็นว่าการทำแบบนี้จะยิ่งทำให้แคว้นเว่ยกับโหยวหยานบาดหมางกันยิ่งขึ้น  อีกทั้งการร่วมมือกับคนที่ทรยศได้แม้แต่แผ่นดินเกิดของตัวเองเช่นทั่วป๋าเส้า  จะไม่มีวันพบจุดจบที่ดี

            จินฉานจื่อกับทั่วป๋าเส้าจึงวางแผนกำจัดตัวหลุนให้พ้นทาง

            แผนการที่ลึกไปกว่านั้น จินฉานจื่อมีเป้าหมายจะเป็นข่านเสียเอง  เขาต้องการจะอยู่เหนือคนทั้งหล้า ไม่ยอมอยู่ใต้คนๆ เดียวอีกต่อไป  จึงวางแผนจะกำจัดท่านข่านด้วย และก้าวขึ้นเป็นข่านเสียเอง

            จังหวะนั้น มู่หลานฯ รับอาสาฮ่องเต้มาลอบสังหารทั่วป๋าเส้าถึงในดินแดนโหยวหยาน เพื่อทำลายแผนการแบ่งแยกของเขา แต่มู่หลานฯ หลงกลติดกับดักที่จินฉานจื่อกับทั่วป๋าเส้าวางไว้ (มู่หลานฉลาดสู้สองคนนี้ไม่ได้)  นางจึงถูกจับขังไว้ในคุกรอการประหาร

            จินฉานจื่อต้องการทำลายตัวหลุน รู้ว่าตัวหลุนต้องมาช่วยมู่หลานแน่  จึงเก็บตัวมู่หลานไว้เป็นเหยือล่อให้ตัวหลุนมาติดกับ  ด้วยการเสนอให้ตัวหลุนเป็นมือเพชรฆาตสังหารมู่หลานเองในวันครบรอบวันตายของหวูถี (พ่ี่ชายของตัวหลุน) ท่านข่านหลงเชื่อตามที่จินฉานจื่อรายงานว่ามู่หลานเป็นคนฆ่าหวูถี  จึงสั่งให้ตัวหลุนสังหารมู่หลาน หาไม่แล้วจะไม่ยกบัลลังก์ข่านให้

            ตัวหลุนแกล้งรับปาก แต่แอบหาพยานหลักฐานสืบหาคนร้ายตัวจริงที่บงการฆ่าหวูถี  แต่ตัวหลุนก็แพ้หมากของจินฉานจื่อที่รู้นิสัยของตัวหลุนเป็นอย่างดี  อีกทั้งยังมีเหย่ซู่ - คนสนิทของตัวหลุนคอยรายงานความเคลื่อนไหวของตัวหลุน  จินฉานจื่อจึงวางแผนซ้อนเพื่อใส่ร้ายว่าตัวหลุนซ่องสุมกำลัง ก่อการกบฏ

            ก่อนที่มู่หลานจะถูกนำตัวไปยังแดนประหาร ทั่วป๋าเส้าได้มาพบเธอ และเกลี้ยกล่อมให้เธอร่วมมือกับเขา  ตามแผนการของเขา ทุกคนจะสมปรารถนาในสิ่งที่ตัวเองต้องการ  ตัวหลุนได้ขึ้นเป็นข่าน  มู่หลานได้เป็นมเหสีของตัวหลุน  และทั่วป๋าเส้าเองจะได้เป็นฮ่องเต้แห่งเว่ย

            แผนของเขาก็คือ เขามีวิธีที่จะปล่อยมู่หลานไป  ให้มู่หลานกลับไปรายงานฮ่องเต้ทั่วป๋าเทาว่าได้สังหารทั่วป๋าเส้าแล้ว จากนั้นก็หาโอกาสสังหารทั่วป๋าเทาเสีย  ส่วนทางเขาก็จะหาทางกำจัดจินฉานจื่อและสนับสนุนให้ตัวหลุนขึ้นเป็นข่าน จากนั้นก็ให้มู่หลานแต่งมาโหยวหยาน

            คนที่เอาผลประโยชน์ตัวเองเป็นใหญ่อย่างตัวละคร "ทั่วป๋าเส้า" นั้นเป็นคนที่ "คบไม่ได้" เลย (อันนี้เอาไว้เป็นอุทาหรณ์ปรับใช้กับชีวิตยุคปัจจุบันได้เสมอ)

            แต่มู่หลานปฏิเสธที่จะร่วมมือกับคนขายพี่น้องร่วมชาติอย่างทั่วป๋าเส้า

            ฉากที่ลานประหารมู่หลาน มีบทพูดที่น่าประทับใจอยู่หลายเรื่อง ตัวอย่าง
            มู่หลานบอกกับตัวหลุนว่า  เธอดีใจที่จะได้ตายด้วยมือของตัวหลุน ถ้าตัวหลุนฆ่านางด้วยมือของเขาเอง แล้วสามารถทำให้ท่านข่านเชื่อใจเขาอีกครั้ง  ยอมมอบบัลลังก์ท่านข่านให้เขาสืบทอด  ตัวหลุนมีอำนาจตัดสินใจ  ชาวเว่ยกับชาวโหยวหยานก็ไม่ต้องรบกันอีก  ถ้างั้นการตายของนางก็ถือว่าคุ้มค่ามาก

            แต่ตัวหลุนตัดใจฆ่านางเพื่อตนจะได้มีอำนาจไม่ได้   เขาเปิดโปงเรื่องที่จินฉานจื่อเป็นคนบงการให้ต้าน่า (รองแม่ทัพฝ่ายโหยวหยาน - คนของจินฉานจื่อ ) วางยาฆ่าหวูถี  แต่ต้าน่าก็ถูกเหย่ซู่ฆ่าตายทันที (เหย่ซู่  เป็นทหารคนสนิทของตัวหลุน  ต่อมาไปเข้าเป็นพวกของจินฉานจื่ออย่างลับๆ เนื่องจากเห็นว่าตัวหลุนคงหมดโอกาสได้เป็นใหญ่แล้ว)  ซึ่งตัวหลุนนึกไม่ถึงเลยว่าคนที่ติดตามใกล้ตัวมานานคนนี้จะทรยศต่อเขาได้

             และยังไม่ทันได้ตั้งตัว เหย่ซู่ ที่ทรยศต่อตัวหลุน ก็ถูกคนสนิทของจินฉานจื่อฆ่าปิดปาก (จุดจบของคนที่่ขายนายแลกยศ)

             ตัวหลุนตัดสินใจปล่อยมู่หลานไป เพราะมู่หลานไม่ใช่คนฆ่าพี่ชายของเขา  เขาบอกให้มู่หลานรีบหนีออกไปจากดินแดนของโหยวหยาน  โดยเขาได้ขอร้องให้เฮ่อหุงพาพวกนางหนี  แต่ตัวหลุนเองยอมถูกจับและถูกจินฉานจื่อใส่ร้ายว่ากบฎต่อท่านข่าน  มีโทษประหาร  โดนจับเข้าไปอยู่ในคุกแดนประหารแทนมู่หลาน (สองคนนี้สลับกันเข้าคุกเกือบตลอดเรื่อง ในเรื่องนี้มีหลายตอนที่มีคนติดคุก และมักเป็นคนที่ไม่ได้ผิดจริง  ตั้งแต่มู่หลานเกือบโดนแม่ทัพเซี่ยตัดหัว  แม่มู่หลานถูกขัง  ตัวหลุนถูกแม่ทัพเซี่ยสงสัยว่าเป็นฆาตรกร  ละครคงต้องการเสียดสีเรื่องแพะรับบาปหรือจับคนผิด)

             จินฉานจื่อก็ไม่ฆ่าตัวหลุนทันทีเหมือนกัน เพราะรู้ว่ามู่หลานจะยังไม่หนีกลับแคว้นเว่ย ต้องวกกลับมาช่วยตัวหลุนแน่  จึงเก็บเขาไว้เป็นหยื่อล่อให้มู่หลานมาติดกับ (แล้วก็มาติดกับจริงๆ )

             ตัวหลุนยอมรับชะตากรรมว่าแพ้จินฉานจื่อทุกทาง  ถูกล่ามโซ่และหมดอาลัยตายอยากอยู่ในคุก แต่พอรู้ว่ามู่หลานยังไม่ยอมจากไป  ยังจะอยู่เพื่อสังหารคนขายชาติและช่วยเขา  ก็ทำให้เกิดกำลังใจฮึดสู้อีกครั้ง

             มู่หลานขอร้องให้เฮ่อหุงช่วยตัวหลุน โดนรับปากว่าถ้าช่วยตัวหลุนได้ นางสัญญาที่จะไม่พบตัวหลุนอีกชั่วชีวิต เพราะต้องการหลีกทางให้เฮ่อหุง - หญิงชาวทุ่งหญ้าที่รักตัวหลุนด้วยใจจริงและพร้อมที่จะทำเพื่อเขาทุกอย่าง (แสดงถึงความรักที่เสียสละ ไม่คิดครอบครอง)        

             ...............................................
            เมื่อท่ายข่านเบิกตัวตัวหลุนจากคุกประหารไปพบ ตัวหลุนเล่าถึงแผนการฆ่าหวูถีและชิงอำนาจทหารของจินฉานจื่อให้ท่านข่านเข้าใจ  จินฉานจื่อจึงสั่งให้คนของเขาที่ส่งไปซุ่มเป็นพ่อครัวในวังข่านนานถึง 7 ปี เอายาพิษที่ทั่วป๋าเส้าให้มาใส่ในเหล้าวางยาท่านข่านตาย  จากนั้นก็ฆ่าพ่อครัวปิดปาก และใส่ร้ายว่าตัวหลุนเป็นคนวางยาฆ่าพ่อชิงบัลลังก์

             จากนั้นก็แต่งตั้งองค์ชายอายุไม่ถึง 10 ขวบขึ้นเป็นข่านแทน โดยมีตัวเองเป็นผู้มีอำนาจสั่งการที่แท้จริง กุมอำนาจไว้ทั้งหมด

             มู่หลานวางแผนลอบสังหารทั่วป๋าเส้ากับช่วยตัวหลุนออกจากคุกให้อยู่ในวันเดียวกัน เพื่อให้จินฉานจื่อต้องแบ่งกำลังรับมือ  โดยตัวเองปลอมตัวเป็นฝูหลิงไปสังหารทั่วป๋าเส้า และให้ตั๋วซูเฟิง ทหารเอกของตัวหลุนนำป้ายคำสั่งปลอมของจินฉานจื่อภายใต้การช่วยเหลือของเฮ่อหุง (ลูกสาวจินฉานจื่อ) ไปเบิกตัวตัวหลุนออกจากคุก  โดยที่ไม่รู้ว่าจินฉานจื่อแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าลูกสาวมาขโมยป้ายคำสั่งของเขานำไปช่วยตัวหลุน ทุกอย่างจึงอยู่ในกับดักที่จินฉานจื่อวางเอาไว้

             ในที่สุด มู่หลานก็วางแผนลอบสังหารทั่วป๋าเส้าได้สำเร็จ (รายละเอียดในการวางแผนสลับซับซ้อนสนุกมาก  เชิญผู้อ่านดูในซีรีย์)  และช่วยตัวหลุนออกมาได้  แต่ก็แลกด้วยชีวิตของสหายทั้งชาวเว่ยและชาวโหยวหยานหลายชีวิต  รวมถึงตัวละครหลักเช่น ช่างตีเหล็ก บัณฑิตซูเซิง ตั๋วซูเฟิง เฮ่อหง ฯลฯ

             ตั๋วซูเฟิง แม่ทัพคู่รบที่ติดตามตัวหลุนมาทุกสนาม ถูกจินฉานจื่อจับได้ตอนไปช่วยตัวหลุนออกจากคุก  และถูกฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหด  ตัวละครตัวนี้เป็นตัวอย่างของการรักนาย ไม่ทรยศต่อนายและช่วยนายจนสุดชีวิต แม้ในยามที่นายตัวเองจะหมดหวังขึ้นเป็นใหญ่

             ส่วนเหย่ซู่ ที่เป็นทหารคนสนิทที่ตัวหลุนไว้วางใจ  ติดตามตัวหลุนตั้งแต่ไปเป็นสปายที่หมู่บ้านหวู่เฟิ่งกู่  เป็นตัวแทนคนที่รักตัวกลัวตาย ยอมเป็นสายลับให้กับจินฉานจื่อ และใส่ร้ายนายตัวเอง ยอมขายนายเพื่อแลกกับการอยู่รอดและเกียรติยศ
           
             ตัวหลุนรอดมาได้ แต่สูญเสียอำนาจทางทหารทุกอย่าง แถมยังมีข้อหากบฏฆ่าพ่อติดมาด้วย

             เขาเข้าตาจน  คิดจะไปรวบรวมชนเผ่าทุ่งหญ้าที่กระจัดกระจายมาช่วยเขา  มู่หลานจึงเสนอให้เขามาร่วมมือกับแคว้นเว่ย เพื่อชิงอำนาจคืนจากจินฉานจื่อ
          
             เมื่อจินฉานจื่อตั้งตัวติด ก็ระดมกำลังทหารโหยวหยาน 1 แสน บุกประชิดเมืองเซิ่งเล่อ แคว้นเว่ย ซึ่งขณะนั้นกำลังพลแค่ประมาณ 6 หมื่นเท่านั้น  มู่หลานตอนนั้นได้รับแต่งตั้งเป็นแม่ทัพแล้ว นำทัพออกต้าน แต่ก็แพ้

             แคว้นเว่ยตกอยู่ในภาวะวิกฤต การจะใช้กำลังที่น้อยกว่าเอาชนะกำลังที่เหนือกว่า จึงเป็นเรื่องของการวางแผนและกลยุทธ์      
             
             มู่หลานเสนอให้ฮ่องเต้ ร่วมมือกับตัวหลุน อดีตองค์ชายของโหยวหยานที่ถูกปลด (เหมือนกัน)
เพื่อให้ตัวหลุนนำกำลังทหารของเว่ยอ้อมไปตีแนวหลังของทัพจินฉานจื่อ (ไปยึดวังข่านคืนและเปิดโปงว่าจินฉานจื่อคือกบฎตัวจริง เพื่อทำให้ทหารส่วนหนึ่งหันกลับมาสนุบสนุนตัวหลุน )  เนื่องจากตัวหลุนยังได้รับความเชื่อถือและมีอิทธิพลในแคว้นโหยวหยานอยู่ในฐานะองค์ชาย

            ฮ่องเต้คิดหนัก เพราะจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเมื่อให้ทหารเว่ยแก่ตัวหลุนไปแล้ว เขาจะไม่หักหลัง ?
           
            มู่หลานจึงต้องเปิดเผยความจริงว่า ที่แท้นางเป็นผู้หญิง และมีความสัมพันธ์ฉันท์คนรักกับตัวหลุน  จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา นางรับประกันว่าตัวหลุนใฝ่สันติ  ไม่หักหลังแน่

             ฉากที่สองผู้นำของสองแคว้นไปยืนสนทนาอยู่บนกำแพงเมืองจึงได้เกิดขึ้นตามมา
   
ฉากนี้ผู้เขียนคิดว่าน่าจะถือเป็นไฮไลท์ของซีรีย์เรื่องนี้อีกฉากหนึ่ง 
และเป็นการสรุปหัวใจของละครที่ดำเนินมาตลอดเรื่อง 

ฉากที่สองผู้นำ - องค์ชายตัวหลุนแห่งแคว้นโหยวหยาน  กับ ฮ่องเต้แคว้นเว่ย ยืนสนทนา (เจรจาทางการทูต ) กันบนกำแพงเมือง  เป็นบทพูดที่สะท้อนแนวคิดที่แสวงหาความร่วมมือในยามวิกฤต (เผชิญหน้ากับศัตรูคนเดียวกัน - ทัพของจินฉานจื่อ)

ฮ่องเต้ทั่วป๋าเทาแห่งแคว้นเว่ยเผชิญหน้ากับศึกนอกที่มีกำลังเหนือกว่ายกทัพประชิด

องค์ชายตัวหลุนแห่งแคว้นโหยวหยานเจอศึกในถูกจินฉานจื่อก่อกบฎชิงอำนาจข่านไป

ทั้งสองจึงต้องหันมาร่วมมือกันเพื่อความอยู่รอด

(ฟังจากคำสนทนาในตอนนี้)  ทำให้ผู้ชมเข้าใจได้ว่า ขณะที่ทั้งสองยังมีสถานะเป็นองค์ชายของสองแคว้นคู่อริอยู่นั้น  เสด็จพ่อของทั้งสองฝ่ายต่างก็สอนลูกให้ระวังและระแวงฝ่ายตรงข้าม  ถ้าเจอที่ไหน จะต้องรีบลงมือกำจัดฝ่ายตรงข้าม  อย่าได้ยั้งมือ  

ฮ่องเต้พูดว่า
ตอนเป็นเด็ก เสด็จพ่อสอนข้าว่า  คนโหยวหยานเป็นพวกเหี้ยมโหดและดุร้าย  เหมือนหมาป่า  ที่คอยจ้องจะบุกรุกแผ่นดินจงหยวน  ชาวโหยวหยานสร้างบ้านหันหน้ามาทางทิศใต้  ก็คือมีเป้าหมายจะครอบครองแผ่นดินจงหยวนที่อยู่ทางใต้ ชิงทรัพยากรของจงหยวน  ถ้าเจอคนโหยวหยาน อย่าได้เปิดโอกาสให้พวกเขาเด็ดขาด

องค์ชายตัวหลุนพูดว่า
ตอนข้าเป็นเด็ก เสด็จพ่อบอกข้าว่า
คนจงหยวนเป็นพวกเจ้าเล่ห์   ถือดีว่าร่ำรวย จ้องแต่รังแกคนโหยวหยานทุกครั้งที่มีโอกาส  การที่ชาวเว่ยซ่อมแซมกำแพงเมืองจีนก็เพื่อจะกีดกันชาวโหยวหยานให้อยู่นอกกำแพงตลอดไป  ไม่ให้เหยียบย่างเข้าไปในแผ่นดินจงหยวน  เห็นชาวโหยนหยานเป็นคนเถื่อน เป็นโจรร้าย  เราไม่มีวันเป็นสหายกันได้  ถ้าเจอชาวเว่ย อย่าได้ยั้งมือไว้ไมตรี

ทั้งสองคุยกันไป และได้บทสรุปว่า
เสด็จพ่อของเราทั้งสอง คงนึกไม่ถึงว่าเราจะมายืนคุยกันแบบนี้
(โลกเปลี่ยนไปแล้ว - อย่างที่ผู้อ่านหลายๆ ท่านเขียนแสดงความเห็นไว้)



ดูตอนนี้ ภาคภาษาจีนที่
https://www.youtube.com/watch?v=SAesqNuX-0M&list=PLJnZ9hsB_i_KOyzX7Sb78xkkoNMUEIqvD&index=47

พากย์ไทยที่
https://www.youtube.com/watch?v=ZhjOqPuV9rI&list=PLrQsE3Q_bAY1v2XbDoiOqBwIDH37NsYBK&index=56


องค์ชายตัวหลุนพูดอีกว่า
ตอนเป็นเด็ก  ข้าเคยใฝ่ฝันที่จะขี่ม้าเที่ยวเล่นทั่วแผ่นดินจงหยวนให้ทั่วทุกเมือง ทุกหมู่บ้าน  เหมือนกับอยู่ในบ้านตัวเอง   นึกมาตลอดว่า มีแต่จะต้องพิชิตจงหยวนให้ได้เท่านั้น ความฝันนี้จึงเป็นจริงได้

แต่เมื่อข้ามาที่หวู่เฟิ่งกู่  จึงได้พบว่า  ถ้าข้ากับชาวเว่ยเป็นเพื่อนกัน  ก็สามารถทำแบบนั้นเหมือนอยู่ที่บ้านตัวเองได้เหมือนกัน  (也一样可以像在自己家里一样  ขี่ม้าเที่ยวให้ทั่ว )
และความรู้สึกนี้มีความสุขกว่าการพิชิตอีกฝ่ายมาก(远比征服的感觉快乐得多)

ฮ่องเต้พูดอีกว่า
เมื่อก่อน ข้าก็เคยเป็นองค์ชาย
ข้ามีความสุขและภาคภูมิใจมากกับหน้าที่ไล่ตะลุยทะเลทราย ขับไล่ข้าศึก
แต่พอข้ามาปกครองประเทศ จึงได้เข้าใจว่า
สงครามนั้นมีแต่ทำให้ประเทศไม่มั่นคง และ สร้างศัตรูมากขึ้น
ตอนนี้ ข้ายินดีเป็นมิตรกับชาวโหยวหยานชนเผ่าของเจ้า

องค์ชายตัวหลุนพูดว่า
ชาวโหยวหยานเรา อิจฉาความมั่งคั่งของชาวจงหยวน
แต่ความมั่งคั่ง ไม่จำเป็นต้องใช้กำลังแย่งชิงจึงได้มา มีอีกวิธีหนึ่งเรียกว่า "เรียนรู้"

บทภาษาจีนพูดว่า  但财富不一定要靠掠夺来获得,还有一种方式叫作 “学习”



ฮ่องเต้พูดว่า
" พ่อของเรา คงนึกไม่ถึงว่าเมื่อเราสองคนพบกัน ไม่เพียงแต่ไม่ได้ห้ำหั่นกัน  แต่กลับยืนสนทนากันแบบนี้ "
ตัวหลุนพูดว่า " ดูเหมือนบางครั้งพ่อเราก็มีพูดผิดได้บ้างเหมือนกัน"

(แต่ผู้เขียนคิดว่า  พ่อของพวกเขาก็คงไม่ได้พูดผิดทั้งหมดหรอก เพราะในยุคนั้นการแย่งชิงดินแดน การขยายอิทธิพล  ก็คงจะเกิดจากทั้งสองฝ่าย)

แต่ผู้สร้างละครเรื่องนี้ต้องการเน้นว่าเพื่อสันติสุข เพื่อความเจริญ ชนเผ่าต่างๆ ควรหันมาร่วมมือกัน
..........................

ในที่สุด ฮ่องเต้แห่งเว่ย ก็ยอมมอบกำลังทหารเว่ย 5000 นายให้ตัวหลุนนำไปตีตลบหลังจินฉานจื่อที่วังข่านของโหยวหยานตามแผนของมู่หลาน (จนได้รับชัยชนะในที่สุด)

การร่วมมือ  การเรียนรู้องค์ความรู้ซึ่งกันและกัน เป็นทางรอดของทุกฝ่าย

ขอยกเอาความคิดเห็นจากผู้อ่าน - คุณ Jeng Piyamanag ที่เขียนไว้มาอีกรอบ  
" โลกเปลี่ยนไปแล้ว  วิสัยทัศน์ของผู้นำแต่ละประเทศควรเป็นอย่างไร ? " (ก็คงต้องรวมถึงท่านกุนซือทั้งหลายด้วย)
............................................
นอกจากนี้ ยังมีความคิดเห็นที่น่าสนใจจากคุณ Tapootum Tapootum ที่เสนอผ่านเฟสบุ๊กหลายประเด็น
มีข้อความหนึ่งเขียนไว้ว่า

" ถ้ามีคนสร้างละครดีๆ แล้วสร้างแรงกระเพื่อมให้สังคมได้คิดเห็นไปในทางที่ดีก็คงจะดีไม่น้อยนะคะ " 

...............................................
บทพูดซึ้งๆ จากตอนนี้
องค์ชายตัวหลุนบอกกับฮ่องเต้ว่า เขากับมู่หลาน " ไม่ว่าอยู่ที่ไหน เกิดอะไรขึ้น แม้อยู่ในสนามรบ เราก็ยังห่วงใยกัน"

...............................................


ปล.จากใจผู้เขียน

ขออภัยที่อัพเรื่องช้า เนื่องจากช่วงนี้มีเวลาจำกัด ไม่สามารถคิด-เขียนคราวละยาวๆ ได้
ตอนที่ 16 นี้ใช้เวลาเขียนอยู่หลายวันมาก

ดีใจที่มีผู้อ่านส่งข้อความมาตาม ว่าเมื่อไหร่จะได้อ่านเรื่องมู่หลานของเหล่าซืออีกที  " รอๆๆ มู่หลานของเหล่าซือออกลูกออกหลานแล้วมั้ง.... "

นี่เป็นการเขียนวิจารณ์หนังแบบยาวๆ ครั้งแรกและเรื่องแรกของเหล่าซือ  ศัพท์แสงอาจไม่เหมือนนักวิจารณ์หนังมืออาชีพ แต่ก็รู้สึกดีที่ได้รับการตอบรับจากคนอ่าน  และมีแฟนติดตามบ้าง เป็นครั้งแรกที่เขียนแล้วมีคนมาเร่งให้เขียนต่อ จริงจังเสียด้วย
ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ

.................................

เก็บตก เบื้องหลังถ่ายทำ และนักแสดง
มู่หลานทางทีวีจบแล้ว ยังเห็นมีแฟนๆ หลายคนคิดถึงองค์ชายตัวหลุน (ดีแลนกัว กัวผิ่นเชา 郭品超 )
มู่หลาน (ที่แสดงโดยโหวเมิ่งเหยา - 候梦瑶)

.................................

เอามาฝาก 1 รูปก่อน  เรื่องอื่นๆ ขอติดไว้ก่อน เจอกันในตอนต่อไปค่ะ

รูปปัจจุบันของ ดีแลนกัว หรือ กัวผิ่นเชา  (คนแสดงเป็นตัวหลุน) นักแสดงชาวไต้หวัน อายุปีนี้ 38 





.............................

เพื่อนๆ ที่แสดงความเห็นผ่านช่องเฟชบุ๊กในบทความนี้  

ถ้าก็อปข้อความที่คอมเมนท์นี้ไปแปะไว้ที่เฟชบุ๊กเพจ https://www.facebook.com/SuwannaFutureC/?ref=hl ด้วย 

ก็จะมีสัญญาณเตือนให้เหล่าซือเข้ามาเห็นคอมเมนท์นั้นค่ะ

...................................


ดูหนังเรื่องนี้ภาคภาษาจีนทางยูทูป ที่ลิงค์นี้ (คลิกที่นี่)

พากย์ไทย ที่คุณ naruto_multiThree อัพไว้ในยูทูปหลังหนังออกอากาศ (คลิกที่นี่)

เพลงประกอบตอนจบ 女儿香 (คลิกที่นี่)
เพลงประกอบตอนมู่หลานกลับบ้าน 问月 (คลิกที่นี่) 


ขอบคุณทุกคลิกทุกความคิดเห็นตั้งแต่ตอนแรก - ตอนปัจจุบัน
Flag Counter


จะตามมาปรับแก้ข้อผิดพลาดอีกรอบค่ะ