มู่หลาน จอมทัพหญิงกู้แผ่นดิน ซีรีส์จีน เวอร์ชั่น 2013
花木兰传奇 The Legend of Hua Mulan
การได้ดูหนังดีสักเรื่อง เหมือนได้อ่านหนังสือดีหลายเล่ม 花木兰传奇 The Legend of Hua Mulan
เขียนโดย สุวรรณา สนเที่ยง 张碧云
。。。。。。。。。。。。。
"ดูละครแล้วฉลาดไม่ต้องพึ่งน้ำมันตับปลา"
เป็นคำคมของบล็อกเกอร์ท่านหนึ่ง ใช้นามปากกาว่า "ลิงเขียว" ที่อ่านเรื่องที่เหล่าซือเขียนแล้วได้คิดคำคมให้กับเรื่องนี้ส่งมาทางคอมเมนท์
เหล่าซือชอบวลีเด็ดนี้มาก จึงขออนุญาตเอามาจั่วหัวเลย
ซีรีย์จีนเรื่อง มู่หลาน เวอร์ชั่นนี้ มีสาระ แง่คิด คำคมและสำนวนจีนทุกตอน ดูแล้วสนุกน่าติดตาม
................................
ผู้เขียนชอบบทของแม่ทัพเซี่ยเหมือนกัน ยกให้เป็นพระรองเลยขอให้ทุกท่านสนุกและได้แง่คิดกับการดูหนังค่ะ
........................................
เจาะลึกข้อคิด สาระ และ เกร็ดภาษาจีนจากหนัง
"คิดอย่างหนึ่งอยู่ คิดอีกอย่างตาย จะเป็นหรือตาย อยู่ที่ความคิดชั่ววูบ"
(คำพูดแม่ทัพเซี่ยชี่เฉินแคว้นเว่ยที่ไม่ยอมก้มหัวให้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง)
ความคิดชั่ววูบกำหนดความเป็นความตาย
( พระสนมฉานฮวาใช้เตือนสติลูกชายที่กำลังหลงผิด หมายถึง การคิดผิดกำหนดความเป็นความตาย )
( พระสนมฉานฮวาใช้เตือนสติลูกชายที่กำลังหลงผิด หมายถึง การคิดผิดกำหนดความเป็นความตาย )
.......................
臣跪天、跪地、跪皇上、跪双亲、跪师长,唯不跪乱臣贼子。
ข้าคุกเข่าให้ฟ้าดิน ให้ฮ่องเต้ ให้พ่อแม่ ให้ครูบาอาจารย์ ไม่คุกเข่าให้โจรกบฎ(คำพูดแม่ทัพเซี่ยชี่เฉินแคว้นเว่ยที่ไม่ยอมก้มหัวให้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง)
..............
พบว่าผู้บงการ ผู้ร้าย คือคนที่ทำตัวเป็นคนมีเมตตา เป็นคนที่ได้รับความเคารพนับถือในหมู่บ้าน
ผู้ร้ายที่ร้ายที่สุด คือ ผู้ร้ายที่อยู่ในคราบผู้ดี
ศัตรูที่น่ากลัวที่สุด คือ ศัตรูที่ซุ่มอยู่ใกล้ตัว
...................................................
จากตอน 17 - 18 ภาคภาษาจีน CCTV และตอนที่ 20 - 22 พากย์ไทยจากไทยพีบีเอส
♣ ขอเล่าล่วงหน้า ก่อนที่หนังเรื่องนี้จะเฉลยว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร
ที่แท้พระสนมฉานฮวาคือแม่นางฉานฮวา หญิงงามที่ปักผ้าเก่งอันดับหนึ่งของแคว้นเว่ยเมื่อ 30 ปีก่อน เคยชอบพอและรักกันกับคุณชายฉาน (จินฉานจื่อ) ทั้งสองใช้ดอกซินหยี(辛夷花)ในการสื่อรักตลอดมา
ต่อมาแม่นางฉานฮวาถูกนำตัวเข้าวัง จินฉานจื่อเสียใจมาก จึงกลับไปอยู่โหยวหยาน (เนื่องจากเขาเป็นลูกครึ่งโหยวหยาน) ด้วยความเจ็บแค้นใจ ต่อมาเขาได้เป็นอาจารย์ที่สอนเหล่าองค์ชายและเป็นถึงอำมาตย์ใหญ่แห่งแคว้นโหยวหยาน
ส่วนพระสนมฉานฮวาคิดถึงและลืมจินฉานจื่อไม่ลง จึงปักดอกซินหยีเต็มไปหมด ฮ่องเต้ไม่ทราบเรื่องราว สั่งให้ปลูกดอกซินหยีเต็มวังเพื่อเอาใจนาง
ต่อมานางได้ประสูติโอรสชื่อทั่วป๋าเส้า(拓拔绍)เป็นองค์ชายที่เฉลียวฉลาด เก่งกล้า จึงได้รับแต่งตั้งเป็นรัชทายาท
ตอนทั่วป๋าเส้าอายุ 15 ปี ฮ่องเต้ทั่วป๋าซื่อเกิดล่วงรู้ความจริงเกี่ยวกับดอกซินหยี โกรธมาก สั่งห้ามปลูกดอกซินหยีทั่วแคว้น ใครฝ่าฝืนมีโทษประหาร ตอนนั้นฮ่องเต้จะฆ่าพระสนมฉานฮวา ทั่วป๋าเส้าถืออาวุธเข้าวังไปช่วยแม่ เกิดการต่อสู้ จึงโดนจับข้อหากบฏ ต้องโทษประหาร
แต่ได้กลุ่มขุนนางและทหารที่ภักดีต่อเขาช่วยชิงตัวหนีไปได้ หลังจากนั้นก็หายสาบสูญ
เมื่อฮ่องเต้ทั่วป๋าซื่อสวรรคต น้องชายต่างมารดาของทั่วป๋าเส้าขึ้นเป็นฮ่องเต้ ( ก็คือฮ่องเต้ทั่วป๋าเทา 拓跋焘 ) ทำให้ทั่วป๋าเส้าผูกใจเจ็บ และคิดตลอดเวลาว่า เขาจะต้องช่วงชิงบัลลังก์กลับคืนให้ได้ เพราะนั่นควรจะเป็นของเขา จึงเกิดศึกสายเลือดในแคว้นเว่ย และทั่วป๋าเส้าก็ไปร่วมมือกับจินฉานจื่อฝั่งโหยวหยาน
........................
(ขอเล่าต่อตามหนังตอนนี้)
ในที่สุด มู่หลานก็ได้พบพระสนมฉานฮวา เธอพบว่าในวังแห่งนั้นเต็มไปด้วยภาพปักดอกซินหยี และก็มีอ่างแช่มือเหมือนที่หวู่เฟิ่งกู่ด้วย พอพระสนมเห็นมู่หลานแสดงขั้นตอนการแช่มือก่อนปักผ้า ( ทำตามที่เสี่ยวซันจื่อบอกไว้ ) นางก็มีอาการแปลกผิดปกติ เพราะนางรู้ทันทีว่าเป็นสัญญาณที่สื่อจากลูกชายที่หายสาบสูญเพื่อให้รู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่เป็นหมออยู่ที่หวู่เฟิ่งกู่
♣ มีคนสนใจว่าดอกซินหยีหน้าตาเป็นอย่างไร ดูจากภาพปักในหนังก็สวยดี เหล่าซือจึงเอารูปถ่ายดอกซินหยี 辛夷花 มาฝาก ภาพนี้เหล่าซือถ่ายเองจากมหาวิทยาลัย BLCU ปักกิ่ง ตั้งแต่ปี 2011 ซึ่งดอกไม้ชนิดนี้ปลูกกันทั่วไปในประเทศจีน ดอกชนิดนี้ยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า
"ดอกมู่หลาน 木兰花"
。。。。。。。。
(ในหนัง) พระสนมฉานฮวาจึงพูดคำพูดที่มู่หลานรู้สึกแปลกๆ ว่า "ไม่ว่าแม่จะอยู่ที่ไหน เมื่อรู้ว่าลูกปลอดภัย แม่ก็สบายใจ"
"ดอกซินหยีแม้สวยก็จริง แต่ก็ขมมาก เป็นยารักษาคนได้ แต่ก็ใช้ฆ่าคนได้ "
"คิดอย่างหนึ่งอยู่ คิดอีกอย่างตาย จะเป็นหรือตาย อยู่ที่ความคิดชั่ววูบ"
คำที่พระสนมฯ พูดนี้ ความจริงต้องการอาศัยปากของมู่หลานส่งข่าวกลับไปให้ลูกชายที่กำลังหลบหนีอยู่ เตือนให้ลูกชายกลับตัวกลับใจ (แต่มู่หลานไม่รู้เรื่อง จึงเอาคำพูดเหล่านี้กลับมาเล่าให้หมอหลัวกับเสี่ยวซันจื่อฟังหมดก่อนที่แม่ทัพเซี่ยจะรู้เรื่อง)
ส่วนเรื่องเคล็ดลับในการต่อเชื่อมผ้าปักนั้น พระสนมฯ บอกว่าสอนกันไม่ได้ ต้องอาศัยเข้าใจเอง
เมื่อกลับมาถึงหวู่เฟิ่งกู่ ในที่สุดมู่หลานก็พบเคล็ดลับเชื่อมผ้าปักไหมแบบไม่มีรอยต่อได้สำเร็จ
ในขณะที่เธอกำลังดีใจและทำการเชื่อมผ้าอยู่ในหอปักผ้าอยู่นั้น ก็เกิดไฟไหม้หอปัก (ซึ่งเป็นบ้านของฝูหลิง) ขึ้น มู่หลานตกใจร้องเรียกคนช่วย มองจากบนหอปักลงมา เห็นท่านหมอหลัว (หลัวเจา(罗昭) เป็นคนวางเพลิงลักษณะตั้งใจจะฆ่าเธอให้ตาย
ขณะที่มู่หลานกำลังหมดหวังที่จะรอดจากกองเพลิง มั่วเจี้ยง (พระเอก) ก็เสี่ยงชีวิตวิ่งเข้าไปช่วยเธอออกจากกองไฟ มู่หลานเห็นภาพปักไหมถูกไฟไหม้ จะเสี่ยงชีวิตเข้าไปกู้ แต่มั่วเจี้ยงห้ามไว้ และตัดสินใจแสดงฐานะที่แท้จริงของเขาต่อเธอว่าที่จริงเขาเป็นองค์ชายของโหยวหยาน มีภาพปักหรือไม่มีภาพปักก็ไม่สำคัญ
มู่หลานโกรธที่มั่วเจี้ยงยังมีเรื่องปิดบังเธออีก
............................
แม่ทัพเซี่ยชี่เฉินรีบรุดมายังสำนักหมอเทียนซิงถังเพื่อจับตัวหลัวเจา (หมอหลัวที่ปกติจะเป็นคนมีเมตตาช่วยรักษาชาวบ้านและเป็นที่เคารพนับถือในหมู่บ้าน)
หลัวเจาในชุดแต่งกายลายปักมังกรเต็มยศซึ่งแสดงฐานะเชื้อพระวงศ์แคว้นเว่ยได้จับเสี่ยวซันจื่อเป็นตัวประกัน เสี่ยวซันจื่อร้องเรียกให้แม่ทัพเซียช่วย
หมอหลัวบอกว่าตัวเองคือองค์ชายทั่วป๋าเส้า อดีตชิงเหออ๋องที่แม่ทัพเซียตามหามานาน 15 ปี เขาสั่งให้แม่ทัพเซียคุกเข่าต่อเขา แต่แม่ทัพเซี่ยตอบด้วยวลีที่แสดงถึงความไม่ยอมก้มหัวให้กับเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ว่า
臣跪天、跪地、跪皇上、跪双亲、跪师长。唯不跪乱臣贼子。
ข้าคุกเข่าให้ฟ้าดิน ให้ฮ่องเต้ ให้พ่อแม่ ให้ครูอาจารย์ ไม่คุกเข่าให้โจรกบฎ
♣ (ตรงนี้ยังแสดงถึงวัฒนธรรม ทัศนคติของชาวจีนที่เคารพนับถือผู้ครองแคว้น พ่อแม่ ครูบาอาจารย์เสมอเคารพฟ้าดินตั้งแต่โบราณกาล)
( โจรกบฎหรือ ? หลัวเจาหัวเราะหึหึ )
หลัวเจาบอกว่าที่ทำไปทุกอย่างเพราะไม่ต้องการให้ตระกูลทั่วป๋าต้องได้รับความอัปยศที่ไปเกี่ยวดองแต่งงานกับพวกชนเผ่าที่ด้อยกว่าให้เสียศักดิ์ศรี(** หมาเหตุจากผุ้เขียน 拓拔 ทั่วป๋า เป็นนามสกุลของราชวงศ์เซียนเปย 鲜卑 หนึ่งในชนเผ่าโบราณ) ในเมื่อฮ่องเต้ทั่วป๋าเทาอ่อนแอ เขาจึงต้องออกโรงเอง
แม่ทัพเซี่ยโต้ว่า จุดประสงค์คงไม่ใช่อย่างที่พูดมา ท่านต้องการขัดขวางการปักผ้าไหม เพื่อต้องการให้เกิดความวุ่นวาย เกิดสงคราม จะได้ฉกฉวยโอกาสซ้ำเติมฮ่องเต้ใหม่ที่เพิ่งขึ้นครองราชย์
คดีฆาตกรรมซ่อนเงื่อนก็เริ่มคลี่คลาย ที่แท้ชุนโฉว (เพื่อนที่โตมาพร้อมกับมู่หลาน) เป็นลูกของบริวารเก่าที่ภักดีต่อทั่วป๋าเส้า นางได้รับคำสั่งให้ไปฝึกปักผ้ากับปาเป้ยฉาน (ซึ่งเป็นหนึ่งในคนที่แอบรักแม่ของทั่วเป๋าเส้าตอนหนุ่มๆ ) แต่ชุนโฉวกลับไปได้วิชาเข็มบินมาด้วย หลัวเจาจึงให้นางใช้เข็มบินฆ่าแม่ฝูหลิงกับแม่มู่หลานโดยไม่ทิ้งร่องรอย ชุนโฉวทำไปเพราะรักหมอหลัว
หลัวเจานึกว่าตอนนี้เขาบรรลุจุดประสงค์แล้ว ภาพปักไหมพร้อมคนปักที่รู้เคล็ดลับการเชื่อมผ้า (มู่หลาน) ถูกเผาไปเรียบร้อย ไม่มีภาพปักไหม โหยวหยานจะต้องถือโอกาสประกาศสงครามกับแคว้นเว่ยแน่นอน
เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ขอมาเล่าต่อตอนหน้า ..............................................
ปิดท้ายด้วยการเอาใจติ่งของ "แม่ทัพเซี่ยชี่เฉิน" (ดาราจีนแผ่นดินใหญ่ "อ้ายตุง" 艾东 Dong Ai ชื่อจำง่ายดี)
ด้วยรูปของ อ้ายตุง 1 ภาพ เขาเป็นดาราที่แสดงได้ทั้งบทดีและบทร้าย
@@@............