วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

มู่หลาน จอมทัพหญิงกู้แผ่นดิน เจาะสาระ 11 ชนะกันด้วยสติปัญญา


มู่หลาน จอมทัพหญิงกู้แผ่นดิน ซีรีย์จีน เวอร์ชั่น 2013 

花木兰传奇 The Legend of Hua Mulan
การได้ดูหนังดีสักเรื่อง เหมือนได้อ่านหนังสือดีหลายเล่ม 
เขียนโดย สุวรรณา สนเที่ยง 张碧云
。。。。。。。。。。。。。

เจาะลึกข้อคิด สาระ และ เกร็ดภาษาจีนจากหนัง
 จากหอปักผ้าสู่สนามรบ 
ชนะกันด้วยสติปัญญา
...................................................
เจาะสาระ วัฒนธรรม อารยธรรมจีน จากซีรีย์จีน มู่หลาน (12)
ดูซีรีย์จีนที่มีสาระ นอกจากเรียนรู้ภาษาแล้ว ยังได้คำคม แง่คิด วัฒนธรรม ทัศนคติเกี่ยวกับการดำเนินชีวิต 
และเข้าใจอารยธรรมจีนที่มีมาแต่โบราณได้อีกด้วย

บทภาพยนตร์ดีๆ  ถ้าเปรียบก็เหมือนหนังสือวรรณกรรมชั้นเยี่ยมเล่มหนึ่ง

คนที่เรียนภาษาจีน  ดูพากย์ไทยแล้วลองดูภาคภาษาจีน 
ฝึกฟัง ฝึกพูดตาม จดคำคม สำนวนจีนดีๆ ออกมา และฝึกแปล

看一部好的中文电视剧,就如读一本好书一样。
除了学语言以外,还可以从中学到不少有关中国古代就有的名言、文明和处世的观念。

เนื้อเรื่องย่อแบบสรุป 
จากตอนซีรีย์ภาคภาษาจีน CCTV และตอนที่  23 - 27 พากย์ไทยจากไทยพีบีเอส 

         หลังจากจบภาคการปักไหมสินเจ้าสาวเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ที่ยาว 20 กว่าตอน ต่อไปนี้ก็จะเริ่มภาคที่รบกันยาวนาน 10 ปีระหว่างแคว้นเว่ยกับโหยวหยาน 
         ที่ภาคปักผ้ายืดยาวเก็บรายละเอียดมากมาย เพื่อสะท้อนว่าแม้ชาวบ้านจะไม่ต้องการสงคราม  พยายามทำทุกอย่าง เสียสละแม้กระทั่งชีวิตทุ่มเททำภาพปักเพราะไม่อยากให้พ่อบ้านหรือลูกชายต้องออกรบ  แต่สงครามก็เกิดขึ้นจนได้เนื่องจากความต้องการของคนมีอำนาจบางคน  เป็นไปตามคำพูดของพระสนมฉานฮวา " คิดอย่างหนึ่งเป็น คิดอีกอย่างตาย" ความคิดและการตัดสินใจของท่านข่านที่เชื่อคำของจินฉานจื่อนำมาซึ่งความหายนะและการล้มตายของเหล่าทหาร การสูญเสียญาติสนิทของนับพันนับหมื่นครอบครัว  รวมถึงนำความเจ็บปวดมาให้กับครอบครัวของท่านข่านเองในที่สุด
           " คิดอย่างหนึ่งเป็น คิดอีกอย่างตาย" คำนี้เป็นสัจธรรมจริงๆ  
           ในชีวิตคนเรา  ระหว่างทางมีอะไรให้ "เลือก" และ "คัดทิ้ง" มากมาย  ถ้าเลือกถูกก็ประสบความสุขความเจริญ แต่ถ้าเลือกผิดหรือเดินทางผิด ก็นำมาซึ่งความล้มเหลวและความทุกข์  คนที่ทำร้ายตัวเอง ทำร้ายคนอื่น ทำลายครอบครัว ตกเป็นอาชญากร ก็มาจากความคิดที่ตัวเองเลือกนี่แหละ    
......     มีบทพูดที่ดีๆ หลายฉากก่อนที่จะรบกัน 
          เช่นมีตอนหนึ่งที่ท่านข่านบอกพระเอกว่า  " ถ้าเราไม่กำจัดแคว้นเว่ย  สักวันเราจะถูกแคว้นเว่ยกำจัด  เปรียบเหมือนหมาป่า ถ้าเราไม่ล่ามัน วันหนึ่งเราก็จะถูกมันกิน "
          พระเอกตอบว่า " ความจริงทั้งชาวโหยวหยานและชาวเว่ย  เดิมก็ไม่ใช่หมาป่า แต่สงครามทำให้ลูกแกะกลายเป็นหมาป่าต่างหาก "
          ...........................................
 ( เรื่องราวต่อจากตอนที่แล้ว )     
          เมื่อองค์ชายตัวหลุน (พระเอก) พบว่าว่าที่เจ้าสาวที่แคว้นเว่ยส่งมานั้นไม่ใช่มู่หลาน แต่กลับกลายเป็น "ฝูหลิง" (茯苓)ซึ่งมาในฐานะช่างปักผ้าอันดับหนึ่งและ "องค์หญิงซีไห่" (西海公主)เขาผิดหวังและบอกขอโทษฝูหลิงที่เขาไม่สามารถแต่งงานกับเธอได้  เพราะในใจเขามีแต่มู่หลานคนเดียว

   
          จินฉานจื่อเสนอให้ท่านข่านประกาศสงครามกับแคว้นเว่ยโดยอ้างเหตุทหารเว่ยชิงภาพปักไหมไป ไม่มีความจริงใจในการเชื่อมสัมพันธ์  ตัวหลุนคัดค้านแต่ไม่สำเร็จ และยังถูกบีบบังคับจากท่านข่านผู้เป็นพ่อให้รับหน้าที่แม่ทัพใหญ่รบเพื่อพ่อ รบเพื่อความยิ่งใหญ่ของชาวโหยวหยาน 
          สงครามใหญ่กำลังจะเกิดขึ้น ตัวหลุนกลับไปหามู่หลานที่หวู่เฟิ่งกู่ คิดจะพาเธอหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัยจากภัยสงคราม  แต่พบว่าหวู่เฟิ่งกู่เปลี่ยนจากที่เคยคึกคักกลายเป็นเมืองร้างเงียบเหงาเสียแล้ว ชายฉกรรจ์ในหมู่บ้านถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารหมด ( ทำให้ไม่มีแรงงานผลิต ) เส้นทางค้าขายถูกปิด ไม่มีพ่อค้ามาซื้อผ้าไหมเหมือนแต่ก่อน ( เศรษฐกิจซบเซา ) ส่วนมู่หลานก็หายไป  ไม่มีใครรู้ว่านางหายไปไหน แต่ตัวหลุนนึกว่ามู่หลานอาจไปหาเขาที่ชายแดน เพราะรู้ว่าเมื่อสงครามเกิดขึ้น ตัวหลุนจะต้องคุมทัพมาที่ชายแดน  
          ตัวหลุนกลับโหยวหยานด้วยความผิดหวังอีก 
          ไหนๆ ก็จะรบกันแล้ว  เรื่องแต่งงานก็ไร้ความหมาย  องค์ชายตัวหลุนจึงขอให้ท่านข่านปล่อยฝูหลิงกลับแคว้นเว่ย  เพราะนางไม่ควรมารับเคราะห์กรรมอยู่ที่โหยวหยาน  
          แต่ท่านข่านไม่ยอมส่งหญิงเก่งและสวยคนนี้กลับเว่ย  กลับสั่งให้รับฝูหลิงไว้เป็นมเหสีของตัวเองแทนในเมื่อตัวหลุนไม่ยอมแต่งงานกับฝูหลิง
          ตัวหลุนตกใจและเสียใจที่ฝูหลิงต้องมาพบกับชะตากรรมเช่นนี้  จึงเตรียมม้าไว้จะช่วยฝูหลิงหนี แต่ฝูหลิงนึกถึงภาระหน้าที่ของตนเองที่มาเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์  เพื่อประชาชนแคว้นเว่ย  นางจึงไม่ยอมหนี และยอมรับชะตากรรมโดยยอมแต่งงานกับท่านข่าน ( ที่มีลูกชายแก่กว่าตัวเธอเสียอีก )            

         (ฉากในหนัง) ฝูหลิงกอดตัวหลุนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเปลี่ยนฐานะเป็น "แม่" ของตัวหลุน
          ฉากที่องค์ชายตัวหลุนพูดกับฝูหลิงนี้  เป็นอีกฉากหนึ่งที่เรียกความสะเทือนใจจากผู้ชมได้ไม่น้อย  สงสารฝูหลิงสาวงามอายุ 18 ชีวิตต้องพลิกผันกลายมาเป็นมเหสีของท่านข่านอายุมากกว่ารุ่นพ่อแทนที่จะได้แต่งกับองค์ชายในฝัน ( มู่หลานตอนหลังมารู้เรื่องนี้ ก็เสียใจและโทษตัวเองที่ยกตำแหน่งช่างปักอันดับหนึ่งให้กับฝูหลิง ) 
         ฝูหลิง ที่เคยบอกว่าจะแย่งมั่วเจี้ยงกับมู่หลาน ไม่ใช่ตัวอิจฉา หนังเรื่องนี้มีจุดเด่นคือไม่มีตัวอิจฉา มีรักหลายเส้า แต่ก็เป็นรักที่จริงใจและเสียสละ ( ท่านข่านก็รักและเอ็นดูฝูหลิงมากในเวลาต่อมา )

         เพื่อนสนิทคู่นี้ ฝูหลิงกับมู่หลาน ถูกสร้างให้เป็นตัวละครที่เสียสละ  ต่อมาฝูหลิงได้นำเอาภูมิปัญญาด้านการทอผ้าปักผ้าของชาวจงหยวนไปสอนให้กับผู้หญิงชาวโหยวหยาน ช่วยให้พวกนางมีฝีมือและมีรายได้ที่ดีกว่าเลี้ยงแพะ ( สร้างความมั่งคั่งให้กับชนเผ่าทุ่งหญ้า ) ฝูหลิงใช้เข็มกับด้ายเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ทั้งสองเผ่า  ส่วนมู่หลานเปลี่ยนจากจับเข็มกับด้ายมาเป็นจับมีดดาบ

          ในวันรุ่งขึ้น  ฝูหลิงเข้าพิธีแต่งตั้งเป็นพระมเหสี  ส่วนองค์ชายตัวหลุนจำใจรับตำแหน่งแม่ทัพใหญ่  นำทัพใหญ่ประชิดชายแดนแคว้นเว่ย 

          ตอนนี้ก็ถึงฉากรบตามที่คนดูหลายคนรอคอย . ( ถ่ายทำที่ทุ่งหญ้ามองโกลเลียใน ทางเหนือกรุงปักกิ่ง - ปล. มีเพื่อนผู้อ่านถามมา ) 
          ฉากสู้รบในทุ่งหญ้านี้ เป็นฉากใหญ่ที่ต้องทุ่มทุนมหาศาลและใช้นักแสดงกับม้าจำนวนมาก  ตอนถ่ายทำทางกองถ่ายไปกว้านจ้างม้ามาเข้าฉากแทบหมดทุ่งหญ้า (ผู้เขียนแอบไปอ่านเบื้องหลังการถ่ายทำมา) ตัวแสดงต้องฝึกขี่ม้า ต้องใส่ชุดเกราะที่หนักประมาณ 7 กิโลกรัม  นักแสดงอ้ายตุงที่แสดงเป็นแม่ทัพเซี่ยต้องทากาวติดหนวดท่ามกลางอุณหภูมิตอนกลางวันที่ 38 องศา (แค่นึกดูก็รู้สึกไม่ไหวแล้ว)

          พระเอกของเรื่อง ได้เปลี่ยนชุดคอสตูมจาก "มั่วเจี้ยง" พ่อค้าม้า  มาเป็นชุดคอสตูม "แม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นโหยวหยาน" เต็มยศแล้ว  บุคลิกและภาพลักษณ์ก็เปลี่ยนเป็นผู้นำที่เฉียบขาด ฉลาดเก่งกล้า นักวางแผนการรบ ขึ้นมาทันที 
          แต่แม่ทัพคนนี้เปลี่ยนไป จากเดิมที่ไม่เคยกลัวการทำสงครามและไม่เคยรบแพ้มาก่อน  กลายเป็นแม่ทัพที่ไม่มีใจจะรบ  ไม่คิดจะบุก  ตั้งค่ายคุมเชิงไว้เฉยๆ อยู่นานหลายเดือน ( ยิ่งตอนหลังมารู้ข่าวว่ามู่หลานกลายเป็นทหารอยู่ในค่ายฝั่งตรงข้าม เขายิ่งไม่ยอมรบ ทำให้เสียโอกาสที่ได้เปรียบในการบุกตีก่อนที่ทัพใหญ่ของแม่ทัพเซี่ยฝ่ายเว่ยจะยกมาถึงชายแดน )     
          
          ที่แท้มู่หลานขโมยชุดทหารของพ่อ ปลอมตัวเป็นชาย ตัดสินใจไปเป็นทหารตามหมายเกณฑ์แทนพ่อ ในชื่อของพ่อ "ฮวาหู" (花弧) แต่ผู้หญิงเข้าไปอยู่ในกองทัพ  ตามกฎแคว้นเว่ยคือประหารสถานเดียว  
          ตอนนี้ชุดคอสตูมของ "มู่หลาน" ก็เปลี่ยนจากชุดสวยๆ ของสาวปักผ้า มาเป็นชุดพลทหารแทน

          เมื่อแม่ทัพตัวหลุนรู้ข่าวว่ามู่หลานกลายเป็นทหารเว่ยที่อยู่ในค่ายที่เขาจะต้องบุกตี  หญิงที่เขารักอาจจะตายได้ทุกขณะเมื่อเขาสั่งเคลื่อนพลเข้าบุกตี  ยิ่งทำให้เขาไม่กล้าสั่งลุย  แววตาของเขาแสดงความปวดร้าว  โดยนักแสดง (郭品超)ถ่ายทอดความรู้สึกของตัวละครออกมาได้ดีมาก  เรียกอารมณ์คนดูให้เกลียดสงครามยิ่งขึ้น

          เมื่อแม่ทัพเซียชี่เฉินยกทัพมาถึง  ก็วางแผนข้ามฝั่งจู่โจมทัพโหยวหยานทันที  
          แม่ทัพตัวหลุนสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างที่ชายแดน  จึงวางแผนรอรับสู้กับทัพเว่ยถึงกลางดึก  
         หลังวางแผนเสร็จ  ตัวหลุนคิดถึงมู่หลาน  จึงหยิบซอหัวหมาป่าที่เคยเล่นให้มู่หลานฟังตอนอยู่หวู่เฟิ่งกู่ขึ้นมาเล่น 
         ในจังหวะนั้น  หัวหน้าหน่วยยวี้ฉื่อ (หน่วยกล้าตายของเรื่อง) กับมู่หลานแอบข้ามไปสอดแนมค่ายข้าศึก  มู่หลานได้ยินเสียงซอ ก็จำได้ว่าเป็นเสียงซอของตัวหลุนแน่ๆ 
         ฝ่ายตัวหลุนรู้ว่ามีสายมาสอดแนม แต่ก็แกล้งปล่อยไป (ตามแผนพิชัยสงครามซุนวู)  
         มู่หลานหนีกลับมาที่ค่ายทัพเว่ย  แล้วได้ฟัง "ซูเซิง" (นักศึกษาที่ถูกเกณฑ์มาเป็นทหาร เป็นคนชื่นชอบตำราพิชัยสงคราม) วิเคราะห์ตำราพิชัยสงครามบทที่เกี่ยวกับ "สายสืบ"  นางจึงรีบไปรายงานให้แม่ทัพเซี่ยรู้ว่าผู้ที่บัญชาการรบอยู่ฝั่งตรงข้ามคือ "ตัวหลุน "  ถ้าบุ่มบ่ามบุกไปจะทำให้ทัพเว่ยเสียหายมาก  ทำให้แม่ทัพเซี่ยรีบปรับแผนการจู่โจมใหม่  
         การรบกันครั้งนั้น  ทัพเว่ยก็ตีทัพตัวหลุนพ่ายแพ้ยับเยิน  ( เป็นครั้งแรกที่ตัวหลุนรบแพ้  แพ้เพราะจิตใจอ่อนไหวและเสียงซอของตัวเองแท้ๆ )  ขณะที่ตัวหลุนบัญชาการรบอยู่  เขาเห็นมู่หลานในชุดทหาร ก็สั่งไม่ให้ทหารยิงธนูใส่ทัพเว่ย  
         หลังจากที่แพ้  เขาก็รู้ว่า เขาแพ้ เพราะข้างกายของแม่ทัพเซี่ย มีมู่หลานที่เข้าใจตัวเขายิ่งกว่าแม่ทัพเซี่ยที่เข้าใจเขา  
         (ตามหนังเรื่องนี้) ทั้งมู่หลานและตัวหลุนต่างก็ฉลาดมาก  แต่ที่ตัวหลุนแพ้เพราะรักที่กลายมาเป็นจุดอ่อนในการทำศึก  ส่วนมู่หลานก็อาศัยจุดเปราะบางทางใจเอาชนะ  ใจแข็งเกินจนคนดูเครียดรับไม่ค่อยจะได้
         ตัวหลุนถูกเรียกตัวกลับไปรับโทษ  จินฉานจื่อถือโอกาสเสนอให้ท่านข่านปลดตัวหลุน เปลี่ยนตัวแม่ทัพให้องค์ชายใหญ่ "หวูถี" พี่ชายของตัวหลุนรับตำแหน่งแทน (จินฉานจื่อต้องการให้อำนาจทหารเปลี่ยนมือมาอยู่ในมือของหวูถี ซึ่งเป็นองค์ชายที่เชื่อฟังเขามากกว่า) 
         แต่ก่อนที่คำสั่งเรียกตัวกลับจะมาถึง  ตัวหลุนได้ยินว่าผู้หญิงอยู่ในกองทัพเว่ยถ้าถูกจับได้จะต้องถูกประหาร เขาจึงเสี่ยงชีวิตปะปนไปกับเฉลยศึกเพื่อเข้าไปในกองทัพเว่ยเพื่อหาโอกาสคุยกับมู่หลาน      
       


เกร็ดความรู้ด้านวัฒนธรรม-ประวัติศาสตร์จีน (หมายเหตุจากผู้เขียน)
         **  ในตอนที่แสดงถึงเรื่องการตั้งค่ายกลสู้รบกันนี้  มีแง่มุมกลยุทธกลวิธีการสู้รบของทั้งสองฝ่ายแบบกางตำราพิชัยสงครามของซุนวู ( 孙子兵法) มาวางแผนการรบกันเลยทีเดียว  การชนะศึกไม่ได้อาศัยแต่การมีกำลังพลมากเพียงอย่างเดียว ยังอาศัยสติปัญญาและไหวพริบด้วย 
              ตำราพิชัยสงครามซุนวู ถือเป็นภูมิปัญญาน่าทึ่งอีกแขนงหนึ่งของจีนโบราณ  นับเป็นตำราทำศึกเล่มแรกของโลก ตำราเล่มนี้ได้มีการแปลเป็นหลายสิบภาษา เผยแพร่ไปทั่วโลกจนถึงทุกวันนี้  ภาษาต่างประเทศภาษาแรกที่แปล คือ ภาษาฝรั่งเศส นอกนั้นก็มีภาษาอังกฤษ อิตาลี ไทย ฯลฯ มีชื่อในภาษาอังกฤษว่า " The Art of War "
              孙子兵法  เขียนขึ้นเมื่อ 2600 กว่าปีก่อน ประมาณก่อนคริตศักราช 600 ปี  ปรากฎชื่อผู้แต่งคือ 孙武 ซุนหวู่ แห่งแคว้นหวู  ยุคชุนชิวตอนปลาย(春秋末期吴国)  
              เรื่องตำราพิชัยสงครามเคยออกเป็นข้อสอบ PAT ภาษาจีน (ข้อสอบที่ใช้สอบเข้าระดับอุมดมศึกษาของไทยสำหรับนักเรียน ม.6 ) หลายครั้ง 
              เหล่าซือไม่มีความรู้ด้านนี้  จึงขอเล่าแบบดำน้ำข้ามๆ ไป และจะขออนุญาตนำความเห็นของท่านผู้รู้หรือท่านที่สนใจไปหาข้อมูลมาแปะไว้ในช่อง " ความคิดเห็น " หรือในบทความนี้แทน            
         **  ตามประวัติศาสตร์จริง ในอดีตมีการส่งองค์หญิงไปแต่งงานเชื่อมความสัมพันธฺระหว่างชนเผ่า ระหว่างแคว้นเกิดขึ้นหลายยุคสมัย        
...................................................

เนื้อเรื่องย่อ  สาระ วัฒนธรรม ภาษา สำนวนจีน
อ่าน มู่หลาน เจาะลึก ตอน 1 (คลิกที่นี่)

มู่หลาน  ตอน 4 (คลิกที่นี่)
มู่หลาน  ตอน 5 (คลิกที่นี่)

มู่หลาน  ตอน 6 (คลิกที่นี่)

มู่หลาน ตอน 7 (คลิกที่นี่)


เพลงประกอบตอนจบ (คลิกที่นี่)
เพลงประกอบ 问月 (คลิกที่นี่) 



หนังเรื่องนี้กำลังแพร่ภาพทางไทยพีบีเอส ทุกเสาร์-อาทิตย์ 20.15 โดยประมาณ

ดูหนังเรื่องนี้ภาคภาษาจีนทางยูทูป ที่ลิงค์นี้ (คลิกที่นี่)

ภาคภาษาไทย ดูได้ที่ ไทยพีบีเอส (ย้อนหลัง)

และ พากย์ไทย ที่คุณ naruto_multiThree อัพไว้ในยูทูปหลังหนังออกอากาศ (คลิกที่นี่)


ดูทางยูทูป เสียงภาษาจีน มีซับอังกฤษ (ไม่ได้เรียงตอน และมีไม่ครบทุกตอน) ไปที่ลิงค์นี้ (ที่นี่)




ปล. รูปล่างนี้หามาฝากติ่งองค์ชายตัวหลุน  เป็นภาพใหม่ล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้

จากเฟชบุ๊กของ กัวผิ่นเชา 郭品超 Dylan Guo ดีแลนกัว นักแสดงชาวไต้หวัน 


(ถ่ายที่นครเซินเจิ้นของจีน - ในงานเปิดตัวหนังเรื่องใหม่) 

  



  ขอบคุณทุกคลิกและทุกความเห็นตั้งแต่ตอนที่ 1 - ตอนปัจจุบัน

Flag Counter

6 ความคิดเห็น:

  1. สวัสดีค่ะ ขอบคุณมากๆ สำหรับข้อมูลเบื้องหลัง ขอให้ลงอีกเยอะๆ ได้ไหมคะชอบอ่านค่ะ คลิปก็ได้คะ สำหรับตอนนี้ชื่นชมฝูหลิงเสียสละเพื่อชาติ มู่หลานมีทีมช่วยให้ข้อมูลทำให้รบได้ดี สงสารตัวหลุนมีจิตใจต่อคนรักมากเหลือเกิน เหล่าซือคะ สู้ สู้ เขียนตอนต่อไปนะคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. สวัสดค่ะคุณ Jeng Piyamanage
      วันนี้มาไวจัง ฮ่าๆๆ เหล่าซือมีแฟนคลับกับเขาบ้างแล้ว
      เดี๋ยวตอนต่อไปจะไปหาภาพมาให้ดูเพิ่มเติม คลิปเป็นของเว็บจีนค่ะ
      ในหนังเรื่องนี้ เน้นความมีรักแท้ค่ะ ซึ่งจะเห็นชัดเจนมาก ไม่ว่าจะถ่ายทอดออกมาผ่านตัวหลุน มู่หลาน แม่ทัพเซี่ย (ที่แอบรักมู่หลานแต่ก็ไม่แย่งกับตัวหลุน) ฝูหลิง เฮ่อหุง (ที่ตอนแรกเกลียดมู่หลานเพราะเข้าใจว่ามู่หลานทำให้ตัวหลุนหลงผิดตามที่พ่อนางบอก) จู้จื่อ หวูถี ....ทุกตัวละครที่พูดมานี้ น่าสงสารทุกคนเลยค่ะ
      ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ เนื่องจากมีเวลาจำกัด เลยต้องย่อให้สั้นที่สุดค่ะ

      ลบ
  2. ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ คอยติดตามอ่านและให้กำลังใจเหล่าซือค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณอีกครั้งค่ะ ส่งแรงเชียร์มาแบบนี้ สงสัยจะต้องห้ามลาห้ามป่วยแล้วล่ะ
      แค่นี้ก็มีความสุขแล้วค่ะ ขอให้มีความสุขกับการอ่านเช่นกันนะคะ 谢谢。

      ลบ
  3. แวะมาทักทาย สวัสดีค่ะ เหล่าซือ อากาศเปลี่ยนแปลงแบบนี้รักษาสุขภาพด้วยค่ะ(กลัวไม่ได้อ่านตอนต่อไป) แฮะ แฮะ คิดถึงเหล่าซือจัง

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ ดูแลตัวเองด้วยค่ะ ช่วงนี้คนป่วยเยอะ
    กำลังร่างอยู่ค่ะ พอดีสองสามวันนี้งานยุ่งนิดหน่อย เหล่าซือก็คิดถึงคนอ่านคนเมนท์เหมือนกัน พูดจากใจจริงค่ะ

    ตอบลบ